จังหวัดชัยภูมิ เตรียมจัดสืบสานประเพณีเก่าแก่ ” ตีคลีไฟ ” หนึ่งเดียวในโลก พร้อมเชิญ นทท.สัมผัสประสบการณ์

จังหวัดชัยภูมิ เตรียมจัดสืบสานประเพณีเก่าแก่ " ตีคลีไฟ " หนึ่งเดียวในโลก พร้อมเชิญ นทท.สัมผัสประสบการณ์

7 ธ.ค.67  จ.ชัยภูมิ โดย น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกับ อบต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมส่วนราชการเกี่ยวข้องแถลงถึงความการจัดงานประเพณีตีคลีไฟ กีฬาฤดูหนาวแห่งเดียวในโลก ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2567

ที่วัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จะไปสัมผัสประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในโลกในงานประเพณีตีคลีไฟ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ได้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวตำบลกุดตุ้ม ทั้งการแข่งขันตีคลีโหลน ตีคลีไกล การแข่งขันตีคลีไฟ การแข่งขันเรือพาย และกีฬาพื้นบ้าน การแสดงแสง สี เสียงบอกเล่าเรื่องราวประเพณีตีคลีไฟ และปีนี้ ยังจะมีการแสดงของช้างแสนรู้จากบ้านค่าย ซึ่งเป็นหมู่บ้านเลี้ยงจากมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาจัดแสดงให้ได้ชมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชนของชาวตำบลกุดตุ้ม โดยการเล่นคลีไฟ เริ่มต้นมีมาตั้งแต่ปี 2489

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งแรกเริ่มการเล่นเรียกว่า “คลีโหลน” โดยแข่งขันกันตีคลีไกล ใครมีความสามารถตีได้ไกลเป็นผู้ชนะ ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนจากการตีไกลมาเป็นการแข่งขันแบบเป็นทีม “แล้วคลีไฟหล่ะมายังไง” คนสมัยก่อนการไปอาบน้ำชำระร่างกายจะชักชวนกันไปยังท่าน้ำห้วย,หนอง,คลอง,บึง โดยเฉพาะในช่วงเย็นจะไปกันเป็นกลุ่ม เลยคิดสนุกเพื่อเป็นการเรียกเหงื่อก่อนอาบน้ำแบ่งทีมกันเล่นคลีโหลนด้วยการใช้เหง้าไม้ไผ่เป็นอุปกรณ์ตีก้อนไม้ขนาด 10 – 15 เซนติเมตร ไปยังเขตฝ่ายตรงกันข้ามแล้วเข้ากรอบหรือประตูของฝ่ายตรงข้าม (คล้ายกีฬาฮอกกี้) บังเอิญ ลูกไม้กลิ้งเข้าไปในกองไฟ กว่าจะเขี่ยมันออกมาได้มันก็ติดไฟไปแล้ว ความรู้สึกในอารมณ์ที่กำลังสนุกต่อเนื่อง เลยไม่ยอมดับไฟที่กำลังลุกไหม้ก้อนไม้ ก็เลยปล่อยเลยตามเลยตีทั้ง ๆ ที่ไฟยังติดอยู่ อีกประการหนึ่งพอค่ำลงมองไม่เห็นลูกไม้ จึงนำไฟมาจุดลูกไม้เพื่อการมองเห็นจึงเล่นหรือแข่งขันกันต่อได้ในช่วงค่ำซึ่งสร้างความสนุกสนานเร้าใจกว่าการเล่น “คลีโหลน” แบบเดิม ๆ

จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อ คลีไฟ (KLEE-FIRE) ซึ่งชาวบ้านหนองเขื่อง ได้กลับมาเล่นคลีไฟอีกครั้งเมื่อ 6-7 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการจัดตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลกมาถึงปัจจุบัน

 

 

 

 

 

ขณะที่น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวทิ้งท้ายว่า จึงอยากจะขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านได้มาร่วมสัมผัสบรรยากาศแข่งขันการตีคลีไฟรับลมหนาวริมบึง ทานอาหารพื้นถิ่นในบึงหนองเขื่อง ที่มีปลาไหลจำนวนมาก มาทำผัดเผ็ดปลาไหล ข้าวเหนียวคลีโหลน ส้มตำคลีไฟ ส้มตำไก่โอก ข้าวจี่ และพืชผักตามฤดูกาล ที่เด็ดในปีนี้ชาวบ้านหนองเขื่องได้ทำเมนูพิเศษนั้นก็คือข้าวหน้าปลาไหล ที่รสชาติเหมือนอาหารญี่ปุ่น ที่หากินที่อื่นไม่ได้ นอกจากต้องมากินที่บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในงานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น ก่อนที่รองผู้ว่าฯจะโชว์ลีลาการตีคลีไฟ.

 

 

 

 

 

มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคชัยภูมิ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น