สู้เต็มที่! “บอสกันต์-บอสแซม” ส่งเอกสารถึง “DSI” ปมร่วมแผนธุรกิจ “ดิไอคอน”

“บอสกันต์-บอสแซม” ส่งเอกสารแก้ข้อกล่าวหา “DSI” ปมร่วมวงแผนธุรกิจดิไอคอนฯ ด้าน “โฆษกดีเอสไอ” เผย สำนวนพร้อมแล้ว 90% เตรียมนัดประชุมใหญ่กับอัยการคดีพิเศษ สรุปสำนวน 25 ธันวาคมนี้

สู้เต็มที่! “บอสกันต์-บอสแซม” ส่งเอกสารถึง “DSI” ปมร่วมแผนธุรกิจ “ดิไอคอน” – Top News รายงาน

 

 

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนฯ ว่า สำหรับกรอบเวลา 15 วัน ที่ดีเอสไอเปิดให้บรรดา 18 บอสดิไอคอนฯ ได้ทยอยส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ นั้น ทราบว่าผู้ต้องหาในส่วนของผู้บริหารได้ทยอยนำส่งมาบ้างแล้ว ส่วนบอสดารา อาทิ บอสกันต์ นายกันต์ กันตถาวร และบอสแซม นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ก็ได้ยื่นหนังสือชี้แจงประกอบการปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้วเช่นเดียวกัน

 

ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบเรื่องตรวจทานรายละเอียดของการแก้ข้อกล่าวหาได้รวบรวมไว้ประมวลประกอบการพิจารณา โดยเนื้อหาภายในยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และอธิบายว่า ตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องเพียงในส่วนของการทำหน้าที่รับจ้างเท่านั้น ส่วนกรณีที่บอสกันต์ จะอธิบายถึงสาเหตุที่เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด อย่างไรนั้น ดีเอสไอรับฟังทั้งหมด แต่ก็ต้องนำมาดูประกอบกับพยานหลักฐานที่พิสูจน์ความผิดของพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตาม ยังมีพยานของฝั่งผู้ต้องหาแต่ละรายที่ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำดีเอสไอ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาด้วยเช่นกัน จึงยืนยันว่า ดีเอสไอรับฟังความของทุกฝ่าย ทั้งนี้ กรอบเวลาการเตรียมสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ยังคงตามกำหนดการเดิม คือภายในวันที่ 25 ธันวาคม นี้ และในระหว่างนี้จะยังไม่เข้าไปสอบสวนปากคำบรรดาผู้ต้องหาในเรือนจำเพิ่มเติม แต่จะเน้นไปที่การสอบปากคำพยานของผู้ต้องหา

 

บอสกันต์-บอสแซม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับการทำสำนวนคดีนี้ ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้เชิญพนักงานอัยการมาร่วมเป็นที่ปรึกษาในคดี ทำให้หลังจากนี้หากสำนวนของดีเอสไอมีความครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จึงจะได้นัดพนักงานอัยการมาประชุมกันอีกในเร็วๆ นี้ ซึ่งดีเอสไอได้เชิญในส่วนของอธิบดีอัยการคดีพิเศษ หรือผู้แทนอธิบดีอัยการคดีพิเศษ มาร่วมหารือ

ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ปรากฏข่าวมีคลิปเสียงทนายความของผู้ต้องหาบางราย มีการพูดคุยในกลุ่มลับครอบครัวดิ ไอคอน ในลักษณะข่มขู่ถึงผู้ที่ไปแจ้งความกับทางบริษัทฯ ว่าทางบริษัทฯ พิจารณาดำเนินคดีกับตัวแทนที่ไปแจ้งความ ซึ่งภายหลังทนายมีการออกรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งรับว่า เป็นเสียงของตนเอง และชี้แจงสาธารณชนว่า การข่มขู่ดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่เป็นความผิดอาญานั้น

ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น ที่ประชุมของคณะพนักงานสอบสวนเห็นว่า เมื่อมีบุคคลใดมาให้การเป็นพยานในคดีอาญากับพนักงานสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตำรวจ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ย่อมต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ.2546 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการที่จะต้องดำเนินการให้พยานได้รับการปกป้องตามกฎหมาย

ดังนั้น ทราบล่าสุดว่า กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ อยู่ระหว่างจัดทำระบบรับแจ้งข้อมูล และเบาะแสจากผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อการกระทำดังกล่าวผ่านระบบ QR Code ที่จะนำไปแสดงหน้าเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th เพื่อให้ผู้เสียหายได้แจ้งเรื่องยืนยันตัวตนเข้ามา คาดว่า QR Code จะแล้วเสร็จในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคมนี้ ซึ่งความสำคัญของระบบดังกล่าวนี้ ดีเอสไอจะใช้ข้อเท็จจริงของผู้เสียหายที่แจ้งเรื่องเข้ามา เพื่อพิจารณาประเด็นการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ และหากมีประเด็นที่จะต้องใช้อธิบายต่อศาลถึงพฤติการณ์ ดีเอสไอก็สามารถใช้ยื่นประกอบการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวได้

ทั้งนี้ ในส่วนสำนวน 18 บอส ดิ ไอคอนฯ นั้น ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 90% ซึ่งดีเอสไอได้ยื่นขยายเวลาขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 5 และจะได้ยื่นฝากขังต่อในครั้งที่ 6 ส่วนความคืบหน้าในคดีฟอกเงินทางอาญาของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล , นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์   และนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ขณะนี้ คณะพนักงานสอบสวนกำลังขยายผลดูเรื่องปลายทางของเงินในบัญชีผู้ต้องหา ว่ามีการจำหน่าย จ่าย โอน ไปยังปลายทางบัญชีใครบ้าง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำชับให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบกรณีการรับโอนเงิน 5 แสนบาท ระหว่างนางวิลาวัลย์ และนายกลด เศรษฐนันนท์ หรือบอสปีเตอร์ ให้ไปดูข้อเท็จจริง และหลักฐาน ว่ายอดเงินนี้คือเงินอะไร มาจากแหล่งที่มาเดียวกันหรือไม่ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความผิด “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน” หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ช็อก พนง.เรือหลุดจากร่มพาราเซลลิ่ง ร่างตกน้ำทะเล เสียชีวิต จนท.เร่งสอบสาเหตุ
"ประธานกกต." แจงคืบหน้า สองคำร้องยุบเพื่อไทย ยันจะทำเร็วที่สุด
"แม่ทัพภาคที่ 2" ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ "ไฟป่าดงพญาเย็น"
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ต้อนรับศักราชใหม่ จัดพิธีทำบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 104 ปี ของบริษัทในกลุ่มเจียไต๋และบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์
เครือซีพีประกาศแต่งตั้งผู้นำธุรกิจระดับโลกจากนอร์เวย์ “ซิกเว่ เบรกเก้” ดำรงตำแหน่ง “ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล เครือเจริญโภคภัณฑ์” มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2568
"ตร.ไซเบอร์" ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อินเดียข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นฐานลวงเหยื่อ รวบตัวการสำคัญคาสนามบิน
ไม่รอด! จับกุมผู้ต้องหาซุกยาบ้า ในช่องเก็บยางอะไหล่ท้ายรถกว่า 8 หมื่นเม็ด
ตะลึง! มังกรยักษ์นอนพาดกลางทะเลสาบน้ำแข็งจีน
"นายกฯ" ลั่นไม่ใช่เรื่องจริง ปล่อยข่าวลือประเทศไทยไม่ปลอดภัย สั่ง "ดีอี" คุมเข้มเนื้อหาทำลายภาพลักษณ์
หนุ่มน้อยเมืองผู้ดีโดดเรียนไปเชียร์นิวคาสเซิล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น