“เลขาฯป.ป.ช.” คาดม.ค. 68 ได้ข้อสรุป ปม 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ลงชื่อแก้ 112 ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

เลขาฯ ป.ป.ช. คาด ม.ค.นี้ ได้ข้อสรุปสำนวน 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ลงชื่อแก้ไข ม.112 ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ยันดูพฤติการณ์ทุกมิติ พิจารณาเป็นรายๆ ไป

“เลขาฯป.ป.ช.” คาดม.ค. 68 ได้ข้อสรุป ปม 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ลงชื่อแก้ 112 ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่เมืองทองธานี นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจริยธรรม 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เรื่องนี้เราได้ตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมหลักฐาน ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จ คาดว่าเดือนมกราคมนี้ คณะกรรมการไต่สวนจะสามารถสรุปสำนวนเพื่อเสนอเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสาโรจน์ กล่าวต่อว่า การสรุปสำนวนจะมี 2 แนวทาง หากเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ก็เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา หากเห็นว่าไม่มีมูลเพียงพอ ก็จะสรุปสำนวนให้ข้อกล่าวหาตกไป

“การพิจารณาจะดูข้อกล่าวหาประเด็นฝ่าฝืนจริยธรรม โดยดูพฤติกรรมของแต่ละบุคคลว่ามีส่วนร่วมในการดำเนินการแตกต่างกันไป ป.ป.ช.ต้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่ได้หมายความว่าทั้ง 44 คน ตามที่ถูกร้องเรียนจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ป.ป.ช.จะไต่สวนในเรื่องการแก้ไขกฎหมายมีพฤติกรรมในการฝ่าฝืน ไม่ได้ระบุว่าทั้ง 44 คนนี้มีพฤติกรรมในเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้วใครมีพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงก็ว่าเป็นรายๆ ไป” นายสาโรจน์ กล่าว

นายสาโรจน์ กล่าวต่อว่า ป.ป.ช.พิจารณาไปทั้งเรื่อง ไม่ได้พิจารณาเป็นบุคล คือพิจารณาไต่สวนเรื่องนี้ มีบุคคลใดบ้างที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง คณะกรรมการป.ป.ช.ก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา แต่การแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้หมายความว่าเขากระทำความผิด แต่เป็นการให้โอกาสในการชี้แจงข้อกล่าวหา หลังฟังคำชี้แจงแล้วก็จะพิจารณาเป็นรายบุคคล ว่ายังมีบุคคลใดชี้แจงแล้วยังฟังไม่ขึ้น มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในเดือนมกราคมถึงจะมีความชัดเจน

“ทั้งนี้เรื่องของการตรวจสอบการฝ่าฝืนจริยธรรมจะดูพฤติการณ์ทุกมิติ ทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ การเสนอกฎหมายเป็นหน้าที่ อาจจะไม่มีความผิดอะไร เป็นการเสนอปกติ ดังนั้นจะต้องดูพฤติกรรมทุกมิติ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมทั้งผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหา ซึ่ง ป.ป.ช.จะต้องดูพยานหลักฐานทุกอย่าง รวมถึงคำพิพากษาของศาล ก็ต้องรวมมาพิจารณาอยู่ในสำนวนด้วย” นายสาโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปรากฏการณ์ ‘น้ำตกเมฆ’ ไหลอาบขุนเขาจีน
สหรัฐ: แอลเอเตรียมรับไฟป่าลุกลามหลังลมทวีความรุนแรง
"นายกฯ" ถกทีมที่ปรึกษานโยบาย-รมว.คลัง ก่อนมอบจัดทำงบประมาณปี 69 ย้ำใช้ เงินภาษีทุกบาท ต้องคุ้มค่า
"เพจฤๅ - Lue History" สะท้อนประวัติศาสตร์ ภัยการพนัน โยงร่างพ.ร.บ."เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ"
สคบ.สอบเค้น "2 แบรนด์มือถือ" เปิดข้อมูลแอปฯเงินกู้ พบผู้เสียหายแล้ว 9-10 ราย หวั่นข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล
"อธิบดีกรมที่ดิน"ยันถ้ามท.ส่งหนังสือแจ้ง พร้อมเพิกถอนกรรมสิทธิ์ "ที่ดินอัลไพน์"
คกก.เรียกสอบ "พระพล" อดีตเจ้าอาวาสดังมุกดาหาร-อดีตแม่ชี ปมเสพเมถุน
ตร.เร่งไล่ล่า 3 คนร้าย "ชาวตุรกี" บุกห้องคอนโด "ปล้นคริปโต" เพื่อนร่วมชาติ มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท
มติรัฐสภา รับหลักการร่างแก้ข้อบังคับ เปิดทางคนนอกนั่งกมธ.แก้รธน.
สาวไม่ทนร้อง "กัน จอมพลัง" ช่วยหย่าสามีพลังใบ หลังถูกซ้อมน่วม หลอนคิดว่ามีสัมพันธ์กับพ่อ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น