บิ๊กแรก นำคอมมานโด ลุย เด็ดปีก มังกรเทาดำ ค้นรังจีน ระดับสั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเงินเหยื่อ เสียหายหลักพันล้าน

เมื่อเวลา 06.00 น. ( 13 ธันวาคม 2567 ) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภาค.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลังคอมมานโดบูรพา 491 ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 2 และ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. กว่า 50 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา 316/2567 เข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 78/258 ภายในหมู่บ้าน สยามรอยัลวิว หมู่ 10 ( ซอยเขาตาโล ) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังทำการทราบว่าเป็นที่พักของตัวการสำคัญ ระดับสั่งการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์

จากการตรวจสอบ ในเบื้องต้น บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ลักษณะบ้านเป็นบ้านหรูมูลค่าประมาณ 60-70 ล้านบาท มีรั้วรอบขอบชิดแนวกำแพงค่อนข้างสูง และ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน ตำรวจมีการเรียกคนที่อยู่ ปรากฏว่ามีชายชาวจีน ออกมาเปิดประตูให้ ตำรวจจึงมีการอ่านหมายค้นให้ฟัง ก่อนจะเข้าไปทำการตรวจค้นในบ้าน ยังพบว่าภายในบ้านมีรถตู้หรู ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และ เลกซัส สีขาว 1 คัน จอดอยู่ ภายในบ้าน

สำหรับการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่อง เป็นการขยายผลต่อเนื่องมาจาก การจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 คน ในพื้นที่อำเภอศรีราชา ช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ตั้งฐานหลอกลวงเหยื่อหลายรูปแบบ โดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด โดยแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ทั้งการอ้างตัวเป็นตำรวจไซเบอร์หรือทนายความที่สามารถช่วยเหลือด้านคดี ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงและทำให้ได้เงินที่ถูกหลอกไปกลับคืนมา หรือเป็นการหลอกเหยื่อซ้ำเติม และยังหลอกลวงในรูปแบบโรแมนซ์สแกม หรือหลอกให้รัก จะมีสคริปต์การพูดหลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดพบว่ามีการสนทนากับเหยื่อในแอปพลิเคชันเมสเซ็นเจอร์ เฟซบุ๊กและไลน์ออฟฟิเชียลเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมากรวมถึงมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการจับกุมของตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 ในครั้งนั้น มีสืบสวนขยายผลยังทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ มีหัวหน้ากลุ่มเป็นชาวจีน 2 คน โดยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรู เขตพื้นที่เมืองพัทยา จึงมีการสืบสวนสอบสวนจนทราบแหล่งที่พัก ก่อนจะขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายค้น และบุกเข้าทำการตรวจสอบดังกล่าว

ส่วนการตรวจค้นในครั้งนี้ ยังพบบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา 2 หมาย ( 707,708 ) ฐานกระทำความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปฟอกเงินและร่วมกันเงิน คือ นายฉีเว่ย ยี้ อายุ 59 ปี และ นางหงฉง หยู อายุ 55 ปี อยู่ภายในบ้าน ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม ส่วนตัวการใหญ่ในเรื่องนี้ คือ นายเต่า ยี้ อายุ 35 ปี เป็นระดับหัวหน้าสั่งการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รวมถึงเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า การบุกตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในครั้งนี้ เป็นการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริม เปิดออฟฟิศในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 1 ราย และมีการขยายผลและตรวจสอบเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มเติม โดยยึดทรัพย์ได้รวมมูลค่ารวม 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ ยังเปิดเผยต่ออีกว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. ให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากทลายจับกุมแก๊งมังกรเทาดำ ที่ลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ชลบุรี และขยายผลยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน 2.กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี,ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3.กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 20 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 15 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม

จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายนี้แปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลคริปโทเคอเรนซี(Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่าง ๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการ ซึ่งเป็นชาวจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงประกอบกิจการในนามบริษัทนอมินี โดยใช้บริษัทนอมินีที่เปิดขึ้นมาซื้อ และถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง. ) ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย รรท. ผบช.ภ.2 กล่าว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 12 13 ธันวาคม 2567 ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำ เพิ่มเติม 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย คนจีน 1 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญดังนี้ 1. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตรว. ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท , 2. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตรว. ม.10 ต.หนองหรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท ,
3. รถยนต์ LEXUS สีขาว มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
, 4. รถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท ,
5. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท
และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งหมดมูลค่ากว่า 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย และ เมืองพัทยา หากเข้ามาท่องเที่ยวเรายินดีต้อนรับ แต่หากเข้ามาแล้วมาแฝงตัวกระทำผิดกฎหมายหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนและนักท่องเที่ยวจนได้รับความเสียหาย เราเจอกันแน่นอนพวกคุณจะต้องไม่มีแผ่นดินอยู่

 

 

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร / ทิวากร กฤษมณี / อนุกูล กระจ่างแจ้ง ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปธ.กกต" เชื่อเลือกตั้ง "อบจ.เชียงใหม่" ผ่านไปด้วยดี ยังไม่พบทุจริตคืนหมาหอน
เช็กค่าฝุ่น PM2.5 เช้านี้ กทม.สีส้มทุกเขต "หนองจอก" หนักสุด อีก 53 จว.ทั่วไทย ยังอ่วม
เปิดภาพ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" เดินทางออกจากเรือนจำ หลังศาลให้ประกันตัว
"อุบลราชธานี" วุ่นหนัก เกิดเพลิงไหม้ "รพ.เดชอุดม" จนท.เร่งดับไฟ-หาสาเหตุ
ตร.รวบ "นักต้มตุ๋น Apple watch" ก่อเหตุนับไม่ถ้วน ออกจากเรือนจำไม่ถึงปี วนมาก่อเหตุซ้ำอีก
เอาจริง "โคราช" จับ 17 มือเผาก่อฝุ่นพิษ PM2.5 ย้ำชัดห้ามเผาวัชพืชสองข้างทางเด็ดขาด
"ผู้ว่าฯ นครสวรรค์" ขึ้น ฮ.บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าเขาหลวง พร้อมให้กำลังใจ จนท.
ด่วน! "อนุทิน" ส่งหนังสือจี้ถาม "เลขาฯสมช." สอบให้ชัดคู่สัญญา 5 จุดขายไฟฟ้าเมียนมา กระทบความมั่นคงชาติหรือไม่
"ปิยบุตร" หวั่นไหวแทนส้ม แขวะ "ทักษิณ" ช่วยหาเสียงชิงนายกอบจ. อ้างเชื่อมโยงรัฐขัดหลักกระจายอำนาจ
"พิพัฒน์" นำประชุมใหญ่กระทรวง ย้ำนโยบายขยายโอกาสแรงงานไทย ประกาศเป้าธงปี 70 ส่ง 2 แสนคน บินตปท.สร้างรายได้กลับประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น