RT, The Times of Israel และอัลจาซีร่ารายงานว่านายอาห์หมัด อัล-ชารา หรือรู้จักกันในชื่อโมฮัมเหม็ด อัล-จอลานี ผู้นำกลุ่มกบฎฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชามหรือ HTS ที่นำกองกำลังบุกเข้ากรุงดามัสกัสโค่นรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเมื่อ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเรียเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 7 ธค.) วอนนานาชาติเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ในซีเรียด้วยการยับยั้งอิสราเอลจากการถล่มเป้าหมายในซีเรียแบบรายวัน
อัล-จอลานีกล่าวว่าการที่อิสราเอลอ้างเหตุผลการปูพรมถล่มเป้าหมายในซีเรียว่าเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย รวมทั้งเคลื่อนกองกำลังเข้ามาปักหลักในเขตกันชนที่บริเวณพรมแดนถือเป็นเหตุผลที่ไม่มีความชัดเจน, เป็นการละเมิดเส้นแดงและยิ่งเป็นการยกระดับความรุนแรงในซีเรียและภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม อัล-จอลานียังไม่ได้ถึงกับประณามอิสราเอล แต่กล่าวว่าซีเรียต้องการให้ “ทุกฝ่าย” เคารพในอธิปไตยของ “ซีเรียยุคใหม่” และว่าวิธีเดียวที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพในซีเรียคือการเจรจาหรือใช้วิถีทางทางการทูต ไม่ใช่วิธีการทางทหาร
กองทัพอิสราเอลได่เปิดฉากโจมตีซีเรียทันทีที่มีรายงานว่ารัฐบาลอัล-อัสซาดล่มสลาย โดยโจมตีทั้งคลังอาวุธเคมี, คลังขีปนาวุธ, ระบบป้องกันภัยทางอากาศ, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ รวมแล้วกว่า 800 เป้าหมายทั่วประเทศ และล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (เสาร์ที่ 14 ธค.) เครื่องบินอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายอีก 61 แห่ง รวมทั้งคลังอาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศในกรุงดามัสกัส ขณะที่กองกำลังทหารราบได้ทำลายถนนหนทาง, สายไฟฟ้าและระบบน้ำประปาที่เมืองคูเนตร้า ทางตะวันออกเฉียงใต้ของซีเรีย สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง