“รมช.กลาโหม” ตอบกลับ “สว.นรเศรษฐ์” ปมทหารเกณฑ์เสียชีวิตในค่ายทหาร

โดยพลเอกณัฐพล ชี้แจงว่าในห้วงระยะหลังมีเกิดขึ้นน้อยมาก แต่แม้มี 1 ชีวิต เราก็เสียใจแล้ว ฉะนั้นยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมยังมีความเข้มข้นในการเพิ่มการกวดขันไม่ให้ทำหรือเกิดเหตุการณ์ลักษณ์นี้อีกในอนาคต ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของพลทหารศิริวัฒน์ ผลสรุปสาเหตุการตายของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันว่าเป็นระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และความเห็นของแพทย์นิติเวชของโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้รายงานการตรวจศพของพลทหารศิริวัฒน์ว่า ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ไม่พบบาดแผลภายนอกร่างกาย และไม่พบการบาดเจ็บที่อวัยวะภายใน จึงเชื่อได้ว่าเป็นการเสียชีวิตด้วยระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ส่วนประเด็นการฝึกของหลักสูตรเบื้องต้นเฉพาะเหล่าทหารสารวัตร พลทหารศิริวัฒน์ผ่านการฝึกทหารใหม่มาแล้ว และจากการสอบปากคำพยาน พลทหารศิริวัฒน์ไม่ได้รับการฝึกที่หนักหรือทรมาน อันเป็นเหตุให้ร่างกายเกิดอันตรายจากความร้อนหรือฮีทสโตรกได้ ส่วนการกระทำของครูเวร จากคำให้การของทหารกองประจำการ ต่างให้การตรงกันว่าเป็นการวิ่งออกกำลังกายจำนวน 5 รอบสนาม และไม่มีการบังคับ และยังบอกว่าเห็นพลทหารศิริวัฒน์ไปพักคอยที่ใต้ต้นไม้ เมื่ออกกำลังกายเสร็จพลทหารศิริวัฒน์ก็เดินไปซื้อน้ำอัดลมที่ร้านค้า ก่อนมานั่งดื่ม และได้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลม และนอนราบไปกับพื้นดิน และทหารกองประจำการได้ให้การตรงกันว่า ก่อนที่ครูเวรจะเตะไปที่ขาของพลทหารศิริวัฒน์นั้น พลทหารศิริวัฒน์มีอาการดิ้น แขนขาส่ายไปมา และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

พลเอกณัฐพล กล่าวอีกว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยได้สรุปผลการสอบสวนดังนี้ 1.ลงโทษกัก ผบ.ร้อยฝึก 5 วัน และงดบำเหน็จประจำปี เพราะขาดการกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา 2.นายทหารเวรประจำกองร้อยฝึก ถูกลงโทษกัก 7 วัน และงดบำเหน็จประจำปี 3.ครูเวรยอมรับว่าเตะไปที่ขาพลทหารศิริวัฒน์ 2 ครั้ง และยอมรับผิดและการลงทัณฑ์ทางวินัย จึงลงทัณฑ์ขังครูเวรทั้งหมด 15 วัน และงดบำเหน็จประจำปี ส่วนการเยียวยา กระทรวงกลาโหมได้ช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายและทายาทโดยชอบธรรมเป็นเงินสด 1 แสนบาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ นอกจากนี้ญาติสามารถฟ้องเอาผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ รวมทั้งเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ ซึ่งปัจจุบันญาติได้แจ้งความไว้ที่ สภ.สัตหีบ และอยู่ระหว่างการสอบปากคำ