ขีปนาวุธ Iskander สอยทหารยูเครนร่วง 200 นาย สางแค้นโจมตี “เชชเนีย” – Top News รายงาน
เมื่อวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.67) ที่ผ่านมา ยูเครนส่งโดรน 3 ลำ โจมตี กรอซ-นี่ย์ เมืองหลวงในสาธารณรัฐเชชเนีย ของรัสเซีย ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม นับเป็นการโจมตีสาธารณรัฐทางใต้เป็นครั้งที่สอง ในรอบสัปดาห์
รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชน รายงานว่า การโจมตีดังกล่าว ไม่มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ ได้ยิงโดรนของศัตรูตก 2 ลำ ส่วนโดรนลำที่ 3 ตกในบริเวณกองพันตำรวจปราบจลาจล อัคมัต กรอซ-นี่ย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กองกำลังป้องกันของรัสเซีย ภาพที่โพสต์บนช่อง Russian Telegram แสดงให้เห็นขีปนาวุธพิสัยไกลคล้ายเครื่องบิน พุ่งเข้าหาอาคาร ในเมืองกรอซนีย์ พร้อมกับเสียงปืนดังขึ้นเป็นฉากหลัง ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น
หลังการโจมตี คาดีรอฟ ได้ประกาศผ่านช่องเทเลแกรม ขู่โต้กลับทันที โดยกล่าวว่า ครั้งต่อไป ถ้าคิดจะโจมตีเชชเนียด้วยโดรน จำไว้ด้วยว่า เราจะโจมตีแบบเจาะจง ใส่ฐานต่างๆที่ทหารยูเครนรวมกันอยู่ และจะตอบโต้แบบเลวร้ายกว่าหลายเท่า อีกทั้งเขาเสริมว่า หลังถูกโจมตี เขาได้แจ้งตำแหน่งของกองกำลังยูเครน แก่กองทัพรัสเซียทันที จากนั้น ขีปนาวุธ อิสกันเดอร์ 2 ลูก ได้สอยทหารยูเครนร่วงไป 200 นาย จากการโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่ง ในเมืองคาร์คิฟ เมื่อเที่ยงวัน ซึ่งต่อมา สื่อของยูเครนได้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีครั้งนี้
นอกจากนี้ การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี ได้สร้างความเสียหายให้กับค่ายทหารในกรอซนีย์ และทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ซึ่งคาดีรอฟ ระบุว่า ยิ่งถูกทำร้าย มันยิ่งทำให้ขวัญกำลังใจของเรากล้าแข็งขึ้น เรายิ่งต้องการชนะ และตั้งใจที่จะกำจัดศัตรูอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ยูเครนได้โจมตีด้วยโดรนหลายร้อยครั้งในภูมิภาคต่างๆ ของรัสเซีย ในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลังจากที่ความขัดแย้งกับรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้น ครั้งแรกที่โดรนเข้าถึงสาธารณรัฐเชชเนีย คือเมื่อเดือนตุลาคม โดยมหาวิทยาลัยกองกำลังพิเศษรัสเซีย เป็นเป้าหมายในเวลานั้น ก่อนหน้านี้ คาดีรอฟ กล่าวว่า นักรบมากกว่า 47,000 คน รวมถึงอาสาสมัคร 19,000 คน ได้เข้ารับการฝึกอบรมที่ศูนย์แห่งนี้
นับตั้งแต่ที่ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น เชชเนียเป็นผู้สนับสนุนสงครามของรัสเซียอย่างแข็งขัน และส่งกองกำลังไปยังยูเครน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 พันกิโลเมตร เพื่อต่อสู้เคียงข้างกองทัพรัสเซีย