กราดยิงระทึก “กบฎซีเรีย” ดับเกลื่อน 21 ศพ ส่อเค้าวุ่น-เข้าทางอิสราเอล

คำกล่าวอ้างนี้อาจฟังดูไม่เกินจริง เพราะล่าสุด นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า การเสริมสร้างโกลันให้แข็งแกร่งขึ้นนั้น เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัฐอิสราเอล และเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในเวลานี้ เราจะยังคงรักษาโกลันไว้ เราจะทำให้มันเติบโต และตั้งรกรากอยู่บนนั้นต่อไป

ขณะที่ อิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ก็ออกแถลงการณ์เช่นกัน ระบุว่า ความเสี่ยงเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นกับประเทศ ยังไม่หมดไป และความคืบหน้าล่าสุดในซีเรีย ทำให้ภัยคุกคามมีความรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่าผู้นำกลุ่มกบฏ จะอ้างถึงการมีภาพลักษณ์ที่เป็นกลางก็ตาม ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คาทซ์ได้สั่งให้กองกำลังอิสราเอล ไปอยู่บนฝั่งตะวันออก ของภูเขาเฮอร์มอน ซึ่งทอดตัวขวางพรมแดน ระหว่างที่ราบสูงโกลัน และส่วนที่เหลือของซีเรีย ตลอดทั้งช่วงฤดูหนาว

ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ได้เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า การล่มสลายของรัฐบาลอัสซาด สร้างภาวะสุญญากาศบนชายแดนของอิสราเอล และในเขตกันชน ซึ่งอิสราเอลจะไม่ยอมให้กลุ่มญิฮัด เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนั้น และคุกคามชุมชนอิสราเอลบนที่ราบสูงโกลัน ทั้งนี้ รัฐบาลได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ อนุมัติแผนมูลค่ากว่า 40 ล้านเชเกล หรือ ประมาณ 380 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการเติบโตของประชากร ในพื้นที่ที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกยึดครองในซีเรีย โดยการที่เนทันยาฮูยื่นแผนดังกล่าวต่อรัฐบาลนั้น เป็นเพราะคำนึงถึงสงครามและแนวรบใหม่ ที่ซีเรียจะต้องเผชิญ และด้วยความปรารถนาที่จะเพิ่มประชากรในโกลันอีกเป็น 2 เท่า

ด้าน อัฟราฮัม เลวีน นักวิเคราะห์ จากศูนย์วิจัยและการศึกษาอัลม่า ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงของอิสราเอล บริเวณชายแดนทางตอนเหนือ ได้ให้ข้อมูลว่า มีชาวอิสราเอลราว 31,000 คน ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่น หลายคนทำงานด้านการเกษตร เช่น ไร่องุ่น และการท่องเที่ยว โดยโกลันนั้น เป็นที่อยู่ของชาว ดรูซ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับ ที่นับถือศาสนาอิสลาม ราว 24,000 คน โดยส่วนใหญ่พวกเขาระบุตัวตนว่า เป็นชาวซีเรีย