DSI พบเส้นเงินบัญชีม้า ‘บอสดิไอคอน’ โอนให้หวานใจ ‘สามารถ’ จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนฯ ในฐานความผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 และคดีพิเศษคดีฟอกเงินทางอาญา ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีมติสรุปสำนวน พร้อมความเห็นทางคดีส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ก่อนครบกำหนดการฝากขัง 7 ผัด ตามที่มีการเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว วันนี้ (16 ธ.ค.67) พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประชุมหารือกับพนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน และที่ปรึกษาคดีพิเศษ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) โดยวาระการพูดคุยจะเน้นย้ำในเรื่องรายละเอียดความครบถ้วนของสำนวนคดี ซึ่งมีมติเอกฉันท์ว่า ดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม เนื่องจากบรรดา 18 บอสดิไอคอนฯ ต่างได้ทยอยส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้ว
และขณะนี้ตนเองได้มอบหมายให้ พันตรีอรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รองผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รวบรวมเอกสารคำให้การทั้งหมด และตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอน เพราะในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคมนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นัดประชุมกันเพื่อพิจารณาเอกสาร และพยานหลักฐานทั้งหมดของสำนวน เพื่อจะมีความเห็นทางคดีอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายใดจากข้อกล่าวหาใดบ้าง
พันตำรวจตรีวรณัน เปิดเผยอีกว่า ส่วนหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ 3 บอสดารานั้น ทั้งหมดได้จัดส่งมาให้ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว และทราบว่า นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม ได้ยื่นบัญชีพยานบุคคลภายนอกเข้ามาเพื่อขอให้ดีเอสไอสอบสวนปากคำพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง ซึ่งดีเอสไอได้นัดหมายพยานของบอสแซม เข้ามาให้ปากคำในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส่วนประเด็นที่พยานจะต้องให้ปากคำ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาของบอสแซม ความสัมพันธ์ข้องเกี่ยว ประเด็นคำร้องที่บอสแซมกล่าวอ้างไว้ จึงเป็นสิทธิของพยานว่าจะให้การอธิบายความอย่างไรบ้าง เนื่องจากบอสแซม ยังคงยืนยันแก้ข้อกล่าวหา
ทั้งนี้การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ 3 บอสดารา มีเนื้อหาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าตนเองเป็นเพียงผู้รับจ้างเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วมใด ๆ กับแผนธุรกิจ ซึ่งก็เป็นไปตามที่เคยปรากฏเนื้อหามาโดยตลอด
ส่วนความคืบหน้าของนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนายสามารถ นั้น ทั้งคู่ได้ขอขยายเวลาออกเป็น 30 วัน จากเดิม 15 วัน ในการทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดี “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน” จากกรณีที่มีเส้นทางการเงินรับโอนกับบอสพอล 2 ล้าน 5 แสนบาท โดยให้เหตุผลว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้จำนวนมาก จึงต้องขอขยายเวลาไปรวบรวมให้ครบถ้วนก่อน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการฝากขังต่อศาลของคดีร่วมกันฟอกเงินฯ นั้น “ความผิดร่วมกันฟอกเงิน” มีอัตราโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 พนักงานสอบสวนสามารถยื่นขอศาลฝากขังได้ไม่เกิน 84 วัน หรือ 7 ฝาก ทั้งนี้ ในส่วนของการขยายผลในคดีดังกล่าว ดีเอสไอจะเน้นตรวจสอบไปที่เส้นทางการเงินของบุคคลใกล้ชิดของทั้ง 3 ผู้ต้องหาในคดี “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน” อันประกอบด้วย 1.บอสพอล 2.แม่ของนายสามารถ และ 3.นายสามารถ ที่มีการทำธุรกรรมรับโอนเงินกัน รวมถึงจะไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่าเชื่อมโยงไปยังบุคคลใดอีกบ้าง
ขณะที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า สำหรับกรณีคดี “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน” ของนายสามารถนั้น ดีเอสไอ จะเข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยเป็นข้อหาเดิม เพียงแต่เป็นอีกหนึ่งกรรมของการกระทำความผิด เนื่องจากพบว่านายสามารถ ได้ใช้บัญชีธนาคารของหวานใจเป็นบัญชีม้า เหมือนพฤติการณ์ที่ใช้บัญชีธนาคารของแม่ตนเองเป็นบัญชีม้าเช่นเดียวกัน ซึ่งมีจำนวนเงินหลักล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าบัญชีธนาคารของบอสดิไอคอนฯ บางราย ก็มีการโอนเงินมายังบัญชีหวานใจของนายสามารถ อีกด้วย ซึ่งพฤติการณ์คล้ายการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีแม่ของนายสามารถ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง