สำนักข่าวยอนฮัพและ AFP รายงานว่าประธานาธิบดียุนไม่ยอมเดินทางไปให้ปากคำตามหมายเรียกของคณะเจ้าหน้าที่สอบสวนซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจ, เจ้าหน้าที่กลาโหมและเจ้าหน้าที่สอบสวนต่อต้านคอรัปชั่น ซึ่งเชิญยุนมาให้ปากคำในวันพุธนี้ แต่ทางสำนักงานประธานาธิบดีได้ออกมาตอบปฏิเสธ
นอกจากนี้ประธานาธิบดียุนก็ยังตอบปฏิเสธหมายเรียกรอบสองของทีมอัยการพิเศษที่มีคำสั่งให้ยุนเข้าให้ปากคำในข้อกล่าวหาก่อการกบฎและใช้อำนาจเกินขอบเขตที่ศาลกลางกรุงโซลในวันนี้ (จันทร์ที่ 16 ธค.) หลังจากปฎิเสธหมายเรียกรอบแรกไปแล้วเมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 15 ธค.)
ทั้งนี้รายงานเผยว่าหากประธานาธิบดียุนยังคงขัดขืนไม่ยอมมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สอบสวน เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถขอให้ศาลออกหมายจับได้ หากผลสอบสวนพบว่าผิดจริง ประธานาธิบดียุนและผู้เกี่ยวข้องอาจเผชิญโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือแม้แต้โทษประหาร
ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญก็เริ่มเปิดประชุมเพื่อพิจารณามติถอดถอนประธานาธิบดียุนของรัฐสภาเป็นวันแรกในวันนี้ (จันทร์ที่ 16 ธค.) ว่าจะอนุมัติเห็นชอบให้มติดังกล่าวหรือไม่ โดยศาลมีเวลาในการพิจารณา 6 เดือน ทั้งนี้โฆษกหญิงของศาลเผยว่าศาลจะเริ่มเปิดการไต่สวนวันแรกในวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งยุนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาร่วมฟัง ซึ่งการไต่สวนในวันนั้นจะมีการเปิดและพิจารณาหลักฐานเอกสารต่างจากทุกฝ่าย และจะเป็นการพิจารณาแบบปิดประตู และเก็บเป็นความลับ
และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทั้งคนก่อนและปัจจุบัน ขณะที่ทีมอัยการพิเศษก็เข้าจับกุมผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ในข้อหามีส่วนเกี่ยวกับการส่งทหารบุกยึดสภา
และในวันนี้ (จันทร์ที่ 16 ธค.) นายฮัน ดอง-ฮุน หัวหน้าพรรครัฐบาลพีพีพีก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แม้ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุนก็ตาม