และหนึ่งในนั้น ก็คือ เธอคนนี้ “ป้าเป้า” หรือ นางวรวรรณ แซ่อั้ง แม่ค้าผลไม้ วัย 67 ปี ผู้ที่ได้รับสมญานามจากพวกคณะราษฎรว่า “เครื่องด่าแห่งฝ่ายประชาธิปไตย”
ด้วยพฤติกรรมถ่อยๆ ยกขาถีบตำรวจ ชูนิ้วกลางใส่เจ้าหน้าที่ และใช้กริยาด่าทอด้วยคำพูดสุดจะหยาบคาย บางครั้งก็ตะโกนด่าขึ้นมาแบบ ไม่มีปรี่ ไม่มีขลุ่ย เช่น “ไอ้หน้า ห.” บ้าง …ไอ้หน้า ส.” บ้าง ทว่าความหยาบคายเหล่านี้ กลายเป็นอิริยาบถดิบๆ ซื่อๆ ตรงไปตรงมาที่คนฝั่งประชาธิปไตยเค้ายกย่องว่า “ยอดเยี่ยม”
แทบทุกครั้งที่ป้าเป้า ออกมาร่วมชุมนุมขับไล่ ไม่มีครั้งไหนที่ จะไม่ด่า หรือแสดงสัญลักษณ์ความหยาบคายออกมาให้เห็น และเมื่อย้อนกลับไปดูปูมหลัง จึงทราบว่า “ป้าเป้า” เกิดที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พอโตประมาณอายุ 14 ก็ไปใช้ชีวิตอยู่ อุบลราชธานี กับครอบครัวที่มีอาชีพเข็นรถขายของ ขายแตงโมบ้าง ขายผลไม้บ้าง แล้วแต่ตามหน้าฤดู ซึ่งแน่นอนว่า ป้าเป้า ขายของมาตั้งแต่เด็กแล้ว
พอเริ่มแตกเนื้อสาว ป้าเป้า ก็หนีออกจากบ้าน เพราะอยากใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ และได้มาอาศัยอยู่แถวสะพานวันชาติ โดยในปีนั้นประจวบเหมาะตรงกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม (2516) พอดี
“ตอนนั้นยายอายุ 17 แหละมั้ง กำลังเป็นสาวเลย กำลังดื้อเลย ไปวิ่งกับเขา..ใช่ นักศึกษาประชาชนวิ่งหนีลูกปืนกันโกลาหล ป้าอยู่ในที่เกิดเหตุ พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ด้วย ..แหม ไอ้เหี้xนั่นมันขี่เฮลิคอปเตอร์ ยิงตับๆๆๆ เราหมอบกันฉิบหายวายป่วงหมด ดีไม่ตาย ถ้าตายพ่อแม่คงจะหาศพไม่เจอ เพราะว่าตอนนั้นวิ่งอยู่นั่นแหละ ณรงค์ ถนอม ไอ้ชุดนั้นแหละ ยายก็มาวิ่งกับเขา” ป้าเป้า ให้สัมภาษณ์ กับสื่อสำนักหนึ่ง
“ป้าเป้า” เริ่มชุมนุมทางการเมือง มาตั้งแต่หลังปี 2549 เพราะไม่ชอบพวกเผด็จการที่มารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จวบจนเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 เธอสวมเสื้อแดง ออกมาร่วมกินนอนค้างแรมกลางถนน
ถึงวันนี้ “ป้าเป้า” ผู้รักประชาธิปไตยในวัย 67 ปี ประกอบอาชีพ ขายผลไม้ ไปพร้อมๆกับการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย และกลายเป็นขวัญใจคณะราษฎร 3 นิ้ว ไปโดยปริยาย
ทว่าพฤติกรรมของ “ป้าเป้า” ไม่ได้น่ารัก สำหรับทุกคนเสมอไป โดยเฉพาะวีรกรรม แก้ผ้า ฉีกแข้ง-ฉีกขา ตีลังกาโชว์สื่อ ต่อหน้าสาธารณะ เพราะนอกจากจะดูไม่ได้แล้ว ยังทำเอาแทบอ้วกทะลักหมดไส้หมดพุง!