“โฆษกว้า” ปฏิเสธข่าวถอนกำลัง บลัฟกลับอยู่มา 10 ปีแล้ว ไทยก็รู้ดี

“โฆษกว้า” ตอกหน้าไทย! ปฏิเสธข่าวกองทัพว้าใต้ยอมถอนทหาร อ้างไม่เคยตกลงกับไทยอย่างเป็นทางการ บลัฟกลับ-ตั้งฐานอยู่มา 10 ปีแล้ว ไทยก็รับรู้

Top news รายงาน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพจ ว้า นิวส์ แลนด์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าว ซึ่งปรากฏอยู่บนสื่อออนไลน์ของไทยหลายแห่ง ที่บอกว่า กองทัพสหรัฐว้า เขตทหารที่ 171 หรือกองทัพว้าใต้ ได้ตกลงยินยอมถอนทหาร ออกจากพื้นที่ทับซ้อน 7 แห่ง บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว โดยขอเวลาถอนกำลังอีก 3-4 เดือน

 

ว้า นิวส์ แลนด์ อ้างคำสัมภาษณ์ของ อู ญีราน หัวหน้าสำนักงานประสานงานของกองทัพสหรัฐว้า ประจำเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งเป็นโฆษกกองทัพสหรัฐว้า โดย อู ญีราน บอกว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันกองทัพว้าใต้ กับกองทัพไทย ยังไม่มีข้อตกลงอย่างเป็นทางการใดๆ เกี่ยวกับกรณีนี้ออกมา

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 67 เพจข่าวและบัญชียูทูป ของสำนักข่าวหลายแห่ง มีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากฝ่ายทหารไทย ระบุว่า กองทัพว้าใต้ ตกลงยินยอมถอนทหารออกจากพื้นที่ทับซ้อน 7 แห่ง บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว โดยกองทัพว้าใต้ ขอเวลาในการถอนทหาร 3-4 เดือน พร้อมเน้นย้ำว่า การยินยอมถอนทหารครั้งนี้ ไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้ของกองทัพว้าใต้แต่อย่างใด

ตามข้อมูลของ ว้า นิวส์ แลนด์ ระบุว่า ภายในเขตรับผิดชอบของกองทัพว้าใต้ บริเวณชายแดนไทย-พม่า เป็นพื้นที่ซึ่งไทยและพม่า ยังไม่มีการตกลงปักปันเขตแดนกันอย่างเป็นทางการ กองทัพว้าใต้ ได้ตั้งฐาน และมีทหารประจำการอยู่ 9 แห่ง เป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ทหารไทยก็รับรู้ ดังนั้นข่าวที่บอกว่า กองทัพว้าใต้รุกล้ำดินแดนเข้ามาในเขตไทย ซึ่งปรากฏออกมาในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ จึงสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของ รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า เท่าที่ได้จากแหล่งข่าวในพื้นที่ และจากการลงพื้นที่ของตนเอง สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงปกติ ทั้งทหารไทย และทหารว้าแดง ในบริเวณที่เป็นข่าวก็คือแถวๆ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเมื่อไม่กี่วันนี้มีข่าวออกมาว่า ทางการพม่าไปคุยกับว้า และว้าตัดสินใจจะถอนกำลังออกไปในจุดพิพาทกับไทย แต่จะใช้เวลา 3 เดือน ซึ่งแหล่งข่าวในพื้นที่ รวมถึงกองกำลังว้า ออกอาการ งงไปตามๆ กัน กับข่าวที่ออกมา เพราะต้องรอคำสั่งจากหน่วยเหนือคือปางซางแถลงให้ชัดเจนก่อน ก็ยังไม่ได้ถอนทหารออกไป

ซึ่งในวันนี้สดๆ ร้อนๆ เลย สื่อของไทยบางสำนัก รวมถึงสื่อพม่า ก็เสนอข่าวว่า โฆษกว้า ออกมาแถลงการณ์ว่า ข่าวที่ทหารว้าจะถอนกำลังจากจุดดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องจริง รวมถึงไม่มีข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น ระหว่างทหารว้า กับทหารไทย ในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นบทสรุปก็คือว่า ฐานทหารว้าที่ตั้งอยู่บริเวณจุดที่ลึกเข้ามาในแผ่นดินประเทศไทยก็คือ หนองหลวง อยู่ในเขตอุทยานห้วยน้ำดัง แถว อ.ปางมะผ้า อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ยังคงอยู่ปกติ ไม่ได้มีการถอนกำลังทหารแต่อย่างใด แล้วที่บอกว่า ว้าจะขอเวลา 3 เดือน ได้ไปเช็คดูและตรวจสอบกับพื้นที่ ก็ยังคงมีฐานทหารว้าตั้งอยู่จริง และยังไม่มีคำมั่นจากผู้บัญชาการที่ปางซางออกมาอย่างเป็นทางการ ว่าจะขอเวลา 3 เดือนเพื่อถอนทหาร

เมื่อดูทางวัฒนธรรมของว้าแดง ก็มีความเป็นไปได้ ที่จะไม่ยอมถอนกำลังออกไป เพราะว้าลงใต้มาเป็นระลอก มาก่อนที่กองทัพเมืองไตยของขุนส่าจะล่มสลายเสียอีก จากนั้นก็มีการปักหลักอย่างมั่นคงเลยในอาณาบริเวณที่ติดกับชายแดนไทย ซึ่งกองกำลังว้า มีแนวคิดที่ว่า ว้าใช้หยาดเหงื่อแรงงาน แรงกายในการขนกำลังพลเข้าไปลงหลักปักฐาน จึงมีความยึดมั่นถือมั่นพอสมควร แม้กระทั่งในกระบวนการเจรจาสันติภาพกับกองทัพพม่า หรือกองกำลังชาติพันธุ์อื่นๆ ผู้แทนว้า ก็มักจะเปรยว่า ได้ลงทุน ลงแรงไป จึงอยากให้พื้นที่ทางใต้ ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญพม่าปี 2008 เพราะในรัฐธรรมนูญปี 2008 รับรองแค่พื้นที่ว้าเหนือเท่านั้น

ส่วนการที่กองทัพพม่า และว้า โยนเผือกร้อนกันไปมา ในการเจรจากับไทย ทางเราควรจะวางท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้ อ.บอกว่า กรณีที่ว้าล้ำแดนเข้ามาชัดเจน เช่น บริเวณดอยหนองหลวง หน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติหน้าที่ ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เต็มที่ ตามประมวลกฎหมายอาญาเลย เพราะถ้าไม่ผลักดันกองทหารต่างชาติออกไป มันจะทำให้เอกราชเสื่อมเสีย และจะทำให้ราชอาณาจักรไทยส่วนใดส่วนหนึ่ง ตกไปเป็นอธิปไตยของต่างประเทศ เรื่องนี้ใช้กฎหมายจัดการได้เลย ไม่ต้องไปคิดว่าจะต้องเจรจาอะไรทั้งสิ้น แต่หากพูดถึงจุดที่ว้าตั้งฐานในจุดที่เป็นพื้นที่บนสันเขา ถ้าดูตามปฏิญญา 1894 ให้เส้นเขตแดนเป็นไปตามสันเขา ซึ่งฐานทหารก็จะมีความล้ำกันไปมาอยู่ กรณีนี้ต้องเข้าคณะกรรมาธิการเขตแดนพิจารณา เพื่อแลกเปลี่ยนและหาทางแก้ไขร่วมกัน โดยจะต้องมีการปักปันเขตแดนให้มีความชัดเจนอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม หลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำเอาโซเชียลไทยร้อนระอุทันที โดยชาวเน็ตเข้ามาถล่มคอมเมนต์กันเพียบ เช่น
-ความสัมพันธ์อะไรรู้ทั้งรู้ว่าเค้าผลิตยาบ้าขาย ยังต้องมีความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อ?
-ทั้งที่รู้ทั้งรู้ ว่าเขาขนยาบ้ามาขายให้ไทย ยาบ้าเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ยังจะมากลัวกระทบความสัมพันธ์อีก เป็นคนดีจริงๆพี่ไทย
-ยังจะคิดถึงความสัมพันธ์บ้าบออะไรอีก โลกสวยเกิน มันเคยคิดถึงความสัมพันธ์กับไทยมั้ย
-สรุปก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวคนไทยก็ลืมไปเอง รู้ตัวอีกที ไทยกลายเป็นชนกลุ่มน้อยแทนว้าแดง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปธ.กกต.ลงนามตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง 415 คน ดูแลศึกเลือก อบจ.
“พิชัย” นำพณ.จับมือเอกชน ลุยการค้าเชิงรุก ตั้งเป้าส่งออกปี 68 ทะลุ 10 ล้านล้านบาท
“อนุทิน” นำทีมมท.ลงพื้นที่สุราษฏร์ธานี ลั่น “ประชาชนทุกข์ ผมก็ทุกข์” เร่งจ่ายเยียวยาน้ำท่วมให้เร็วที่สุด
เพลิงไหม้ ! กองยางเศษโฟมพลาสติก จนท. เร่งอพยพประชาชนและนักเรียนไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
ตร.เผยสาเหตุ ไฟลุกท่วม บึ้ม"โรงหลอมเหล็ก" ระยอง ทำคนงานบาดเจ็บเพียบ
“อัจฉริยะ” หอบหลักฐาน แฉอดีตนักการเมืองท้องถิ่นลงขัน 30 ล้าน สังหาร "สจ.โต้ง"
"บิ๊กโตโยต้าญี่ปุ่น" พบ "นายกฯ" ยืนหยัดร่วมกับไทย หนุนอุตฯยานยนต์รูปแบบใหม่
ตามคาด “ธรรมนัส“ ยกก๊วน 20 สส.ย้ายซบ “พรรคกล้าธรรม”แล้ว เพิ่มจำนวนสส.ในสภาฯเป็น 24 คน
ชาวเน็ต จี้ ฟังเสียงผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 1 ล้านคน เอาบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นบนดินแทนการแบน
"กนง." มติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.25% รักษาเสถียรภาพศก. ระยะยาว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น