เวลา 11.00 น. วันนี้ ( 20 ธ.ค.67 ) ต้นอ้อ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส. กรวี ถีระพงษ์ 26 ปี เพื่อนบ้าน กรณีพ่อแม่แท้ๆ ทำร้ายลูกสาวของตนเองถึง 2 คน ในพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงประสาน ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา และ นายสมพงษ์ ดวงชอุ่ม ปลัดอำเภอบางน้ำเปรี้ยว และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าตรวจสอบที่บ้านพัก เลขที่ 14 ม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจากการตรวจสอบ พบเด็กหญิงเอ (ด.ญ.สุภัสตรา พุ่มพวง) อายุ 5 ขวบ และเด็กหญิง บี (ด.ญ สุภัสสร พุ่มพวง) อายุ 7 ขวบ อยู่กับนายสมศักดิ์ พุ่มพวง อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นปู่ เพียงลำพัง ซึ่งสภาพบ้านเต็มไปด้วยขยะ มีขี้ไก่ที่เลี้ยงไว้อยู่บนบ้านและที่นอน สภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จึงได้ทำการพูดคุยกับปู่ของเด็กๆ
น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ มูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า จากการร้องเรียนของเพื่อนบ้าน กรณีที่เด็กหญิงทั้ง 2 คนอยู่กับปู่อายุ 69 ปี โดยก่อนหน้านี้ เด็กทั้ง 2 คนมักจะโดนพ่อแม่ทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ ตอนนี้พ่อของเด็ก ( สมชาย พุ่มพวง) ได้ติดคุกในคดียาเสพติด และจะพ้นโทษวันที่ 15 มกราคมนี้ โดยนิสัยพ่อของเด็กจะชอบทุบตีและทำร้ายร่างการภรรยา (น.ส.แสงเดือน จันทร์นวล อายุ 43 ปี ) และลูกๆเป็นประจำ โดยมีพฤติกรรมเสพยาบ้าและลักขโมยของคนในหมู่บ้านเป็นประจำ ส่วนคนเป็นแม่ติดยาเสพติดจับลูกโกนผมทั้งสองคน ชอบตบลูกด่าทอลูกใช้คำหยาบคายกับลูก เมื่อลูกปั่นจันรยานล้มขาเข้าไปขัดกับล้อรถจนเป็นแผลลึก แม่ได้ถอดรองเท้าตบหน้าลูก ด่าว่าลูก แล้วใช้มือขยี้แผลเด็กด้วยความโมโห โดยตอนนี้แม่ได้ทิ้งเด็กทั้ง 2 ให้อยู่กับปู่ และหนีไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้มากนัก ซึ่งปู่ของเด็กมีอาชีพเก็บของเก่ามาขาย เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ส่วนมากจะกินข้าวกับกะปิน้ำปลาเป็นประจำ โดยชาวบ้านพลเมืองดีเป็นห่วงว่า พ่อของเด็กกำลังจะออกมาจากคุก และจะกลับมาทำร้ายร่างกายเด็กอีก นายสมศักดิ์ พุ่มพวง อายุ 69 ปี ปู่ของเด็ก ตอนแรกไม่ยอมรับว่าลูกชายเคยทำร้ายหลาน จะโยนความผิดให้กับลูกสะใภ้คือ น.ส.แสงเดือน เพียงคนเดียวที่ใช้ไม้แขวนเสื้อ หรือใช้ความรุนแรงทำร้ายลูกๆ แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่า ลูกชายของตนก็ทำร้ายลูกเช่นเดียวกัน ซึ่งน.ส.แสงเดือน ลูกสะใภ้มีนิสัยขี้ขโมย ได้ขโมยเอาบัตร ATM ที่รัฐบาลแจกเงินคนจน 10,000 บาทไป หลังจากนั้นก็ทิ้งลูกๆ ทั้ง 2 ไว้กับตนและไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย ไปมีสามีใหญ่เช่าห้องแถวอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตนเองมากนัก
น.ส.แสงเดือน หลังเจ้าหน้าที่ติดต่อได้ก็เดินทางมายังบ้านหลังนี้ พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองคบกับนายสมชาย พ่อของเด็ก ตั้งแต่ปี 59 และถูกนายสมชายทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด เวลาเสพยาก็จะมีอาการหลอน ทำร้ายตนเองและลูกๆ แบบไม่มีสาเหตุ ตนจึงทนไม่ไหวเลิกกับนายสมชาย ตอนที่นายสมชายติดคุกคดียาเสพติด ส่วนตนเองมีลูก จำนวน 5 คน กับนายสมชายคือ 2 คนนี้แต่เลี้ยงไม่ไหว เพราะตนเองมีฐานะยากจนไม่มีเวลาดูแลต้องทำงานตลอด ส่วนเงิน 10,000 ที่กดไปนั้น จะซื้อสิ่งของ อาหารมาให้ปู่ของเด็ก แต่ทำงานเลยยังไม่มีเวลาเอามาให้ ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้แม่เซ็นต์ยินยอม มอบให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นผู้อุปการะ ก่อนจะหาครอบครัวอุปถัมป์ ในการดูแล ซึ่งจากการสอบถามนายสมคิด พุ่มพวง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นลุงแท้ของเด็ก ทั้ง2 จะยอมเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเด็ก เนื่องจากสงสารเด็กๆ และนายสมศักดิ์ ปู่ของเด็ก เพราะทั้งสองติดปู่มาก และปู่ก็ติดหลานๆ ทั้ง 2 เช่นเดียวกัน หลังจากกนี้จะทำเรื่องเงินสงเคราห์มาช่วยเหลือ และประสานหน่วยงานในพื้นที่มาช่วยกันปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของบ้านพัก และจะมีการลงพื้นที่ติดตามผลทุกๆเดือน ที่โรงเรียนรวมไปถึงบ้านของนายสมคิด ที่รับเด็กทั้ง 2 ไปดูแล นอกจากนี้หลังพ่อของเด็กพ้นโทษออกมา ก็จะมาสร้างความเข้าใจว่าสิ่งไหนทำได้ ทำไม่ได้ ในการคุ้มครองดูแลของครอบครัว อุปกถัมป์ต่อไป
