นายสมชาย กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้กรมการหางานถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากทางด้านโรงพยาบาลไม่มีการตรวจสุขภาพจริง แต่ออกใบรับรองแพทย์จะส่งผลกระทบต่อมาตรฐานด้านสุขภาพสุขอนามัยของประเทศไทย ซึ่งกรมการจัดหางานไม่อยากให้เกิดขึ้น และจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่า ในส่วนของแรงงานต่างด้าวบางรายเป็นพาหะนำโรคร้ายเข้ามาในประเทศไทยซึ่งกรมการจัดหางานไม่อยากให้เกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้ และการให้โรงพยาบาลเอกชนเข้ามาตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพการตรวจสุขภาพของแรงงานต่างด้าวเป็น 100% จากเดิมที่มีโรงพยาบาลของรัฐบาลเพียงโรงพยาบาลเดียวไม่สามารถดำเนินการได้ 100% จึงได้มีการกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชนเข้ามาร่วมตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวด้วย

“ขอฝากพี่น้องประชาชนที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว ขอให้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของกรมการจัดหางานอย่างเคร่งครัด เพราะหากแรงงานต่างด้าวไม่ได้ตรวจสุขภาพจริง แล้วเกิดมีการแพร่ระบาดโรคในประเทศไทย ก็อาจจะมีการติดต่อกันในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและไม่สามารถรับได้ จึงขอความร่วมมือพี่น้องทุกคนที่ใช้แรงงานต่างด้าวให้นำแรงงานต่างด้าวไปตรวจสุขภาพจริง เพื่อให้การตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวมีความสมบูรณ์ และหากมีนายหน้า มาแนะนำหรือชักชวนให้ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวในราคาถูก ก็อย่าให้ความร่วมมือ เพื่อเห็นแก่เงิน 100-200 บาท เพราะเงินเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยให้เรารวยขึ้น แต่ส่งผลร้ายต่อระบบสุขภาพและอนามัยของประเทศ” นายสมชาย กล่าว

อย่างไรก็ตามหลัง จากนี้กรมการจัดหางานจะมีการตั้งชุดจัดทีมดำเนินการ สุ่มตรวจโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลที่ได้มีการเชื่อมระบบกับกรมการจัดหางานว่ามีการตรวจสุขภาพแรงงานจริงหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการตรวจสุขภาพให้รายงานต่างด้าวจริงก็จะมีมาตรการยกเลิกเพิกถอนสิทธิ์การตรวจสุขภาพให้แก่แรงงานต่างด้าวรวมถึงขึ้นบัญชีดำไม่ให้มีการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวในอนาคต