จากเหตุการณ์ที่กองทัพเรือสหรัฐฯ สูญเสียเครื่องบินขับไล่ F/A-18 ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต หลังเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี “ยูเอสเอส เกตตี้สเบิร์ก” ส่วนหนึ่งของกองเรือบรรทุกเครื่องบิน แฮร์รี เอส ทรูแมน ยิงผิดพลาด ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮูตีในเยเมน และสกัดกั้นโดรนกับขีปนาวุธของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง แต่นักบินดีดตัวออกมาก่อนได้อย่างปลอดภัย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ธันวาคม) ล่าสุด ฟอกส์ นิวส์ รายงานเพิ่มเติมโดยอ้างแหล่งข่าวทหารว่า ที่จริงแล้ว ในคืนเกิดเหตุ เรือเกตตี้สเบิร์ก ล็อกเป้าเครื่องบินรบพวกเดียวกัน 2 ลำ
เครื่องบิน F/A-18 ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต ลำที่สอง ที่บินตามหลังเครื่องบินรบลำที่ถูกยิงตก ถูกล็อกเป้าจากขีปนาวุธชนิดพื้นสู่อากาศ SM-2 บนเรือเกตตี้สเบิร์ก ขณะเตรียมลงจอดบนเรือทรูแมน และรอดหวุดหวิดจากขีปนาวุธ ที่เฉียดใกล้ในระยะ 30 เมตร หลังจากบินหลบหลีก
แหล่งข่าวกล่าวว่า เรือเกตตี้สเบิร์ก หวิดยิงเครื่องบินรบพวกเดียวกันสองลำ
ก่อนหน้านี้ กองทัพเรือสหรัฐ ยืนยันว่า เรือเกตตี้สเบิร์ก ยิงขีปนาวุธ SM-2 จำนวน 2 ลูก และกำลังสอบสวนว่า ขีปนาวุธพุ่งเป้าเครื่องบินลำที่สองหรือไม่
ส่วนกองบัญชาการกลาง ระบุในแถลงการณ์เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (22 ธันวาคม) โดยบอกแค่ว่า เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี เกตตี้สเบิร์ก ยิงผิดพลาด โดนเครื่องบินขับไล่ F/A-18 หลังขึ้นบินจากเรือทรูแมน โดยไม่ได้เอ่ยถึงเครื่องบินรบลำที่สอง แต่แหล่งข่าวของฟอกส์ บอกว่า ไม่เป็นความจริง และว่า เครื่องบินรบที่ถูกยิง กำลังเตรียมลงจอด หลังกลับมาจากภารกิจเติมน้ำมันกลางอากาศให้กับเครื่องบินรบลำหนึ่งที่ปฏิบัติการโจมตีในเยเมน ขณะอยู่ห่างจากเรือทรูแมน ประมาณ 16 กิโลเมตร พวกเขาเห็นขีปนาวุุธ จึงดีดตัวออกมา 3 วินาทีก่อนขีปนาวุธพุ่งใส่เครื่องบิน
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า นักบินกองทัพเรือ รู้สึกโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสงสัยว่า ลูกเรือประจำระบบขีปนาวุธนำวิถีของเรือเกตตี้สเบิร์ก ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมากเพียงพอ
มีรายงานว่า เรือบรรทุกเครื่องบินทรูแมน ไม่ได้โจมตีเยเมนอีกเลย หลังจากเกิดเหตุยิงพวกเดียวกัน
ทั้งนี้ ในตอนแรก เซนต์คอม แถลงว่า เรือรบสหรัฐฯ ยิงโดรนฮูตีร่วงหลายลำ และขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรืออีก 1 ลูกในทะเลแดง ก่อนแถลงตามมาว่า มีเหตุยิงพวกเดียวกันในวันเดียวกัน แต่ไม่ได้บอกว่าเครื่องบินรบที่ถูกยิงตกทะเล เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโจมตีหรือไม่ ขณะที่ฮูตี ออกมาอ้างว่าการสูญเสียเครื่องบินขับไล่ F/A-18 ของสหรัฐฯ เป็นผลงานของตัวเอง