Top news รายงาน ‘นายกฯ แพทองธาร’ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 อีก 31 จังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ 1 ม.ค. 68 เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพคนไทย 100% ประชาชนมี Health ID ประจำตัว รัฐบาลทำสำเร็จใน 1 ปีแรก เปลี่ยนผ่านระบบสุขภาพสู่ระบบดิจิทัล จาก 30 บาทรักษาทุกโรคสู่ 30 บาทรักษาทุกที่ พร้อมประกาศปี 68 เดินหน้าสร้าง นักบริบาลผู้สูงอายุ จ้างงานในชุมชน 15,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ 50 รพ. 50 เขตในกรุงเทพ ดูแลสุขภาพจิตครบวงจร บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยติดสารเสพติดกลับสู่สังคม เป็นต้น
วันนี้ 25 ธ.ค. 2567 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า ระยะที่ 4 ครอบคลุมทั่วประเทศ 1 มกราคม 2568 โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี หน่วยงานราชการ เครือข่ายประชาชน ภาคเอกชนเข้าร่วมกว่า 200 คน
นางสาวแพทองธาร กล่าวปาฐกถา 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้าว่า วันนี้ 30 บาทรักษาทุกที่ได้เดินทางมาถึงระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายที่ประชาชนอีก 31 จังหวัด จะได้ใช้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งทำได้สำเร็จตามเป้าหมายใน 1 ปีแรก เท่ากับว่าเราใช้เวลาประมาณ 2 ทศวรรษ เปลี่ยนจาก 30 บาทรักษาทุกโรคเมื่อ 22 ปีที่แล้ว มาสู่การเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ในวันนี้ ซึ่งเป็นการ Digital Transformation หรือการเปลี่ยนผ่านระบบสุขภาพสู่ระบบดิจิทัล
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในวันนี้ 30 บาทรักษาทุกที่ได้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนแล้ว 100% ประชาชนทุกคนมี Health ID ประจำตัว ได้รับบริการรักษาพยาบาลที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคิวตรวจนานที่โรงพยาบาลอีกต่อไป เราใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการให้บริการแก่ประชาชน เกิดเป็นใบส่งตัวในรูปแบบดิจิทัล การแจ้งเตือนนัดหมอผ่านไลน์ การหาหมอผ่านออนไลน์
การเปิดให้ร้านยาและคลินิกเอกชนเข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิดูแลประชาชน เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนรับบริการใกล้บ้านตามเวลาราษฎรไม่ใช่เวลาราชการ ผลจากการที่มีทางเลือกใหม่ๆ พบว่าทำให้ประชาชนกว่า 80,000 คนที่ไม่เคยใช้สิทธิมาก่อน มาใช้ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ร้านยาและคลินิกเอกชน อีกทั้งการมีนัดหมายออนไลน์ และใบส่งตัวดิจิทัล ได้ช่วยลดระยะเวลารอคอยของประชาชน เพราะไม่ต้องไปรอคิวแต่เช้า การมีระบบไอทีใน 30 บาทรักษาทุกที่ ผลวิจัยพบว่าทำให้ประชาชนในพื้นที่นำร่องมีความรอบรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่าพื้นที่อื่น
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า หลังจากความสำเร็จของ 30 บาทรักษาทุกที่ในปีแรกแล้ว ในปี 2568 นี้ รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณสุข 6 ด้าน พร้อมเพรียงงบประมาณรองรับ ดังนี้ 1. ระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุ จัดตั้งสถานชีวาภิบาลทั่วประเทศ 2. สร้าง Care Giver หรือนักบริบาลผู้สูงอายุ 15,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานในชุมชน โดยจะเน้นกลุ่มที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และผู้สูงอายุหลังเกษียณเพื่อให้มีงานทำ