“อนุทิน” เปิดศูนย์ป้องกันอุบัติเหตุปีใหม่ 2568 คุมเข้ม 10 วันอันตราย กำชับตำรวจใช้มาตรการกฎหมายเคร่งครัด

“อนุทิน” เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ 2568 บอกปีนี้หยุดยาว ขอโฟกัส 10 วันอันตราย แนะดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ ให้ตำรวจใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“อนุทิน” เปิดศูนย์ป้องกันอุบัติเหตุปีใหม่ 2568 คุมเข้ม 10 วันอันตราย กำชับตำรวจใช้มาตรการกฎหมายเคร่งครัด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

25 ธันวาคม 2567 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมและเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมีกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

 

จากนั้นนายอนุทิน แถลงภายหลังการประชุมว่า รัฐบาล โดย ปภ.เป็นหน่วยงานหลักในการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 วันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน ทุกภาคส่วน ตลอดจนจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ มาร่วมประชุมกัน และรับทราบนโยบายที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุม ป้องกันอุบัติภัยทางท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งตน และพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกันมอบนโยบายให้กับผู้ปฏิบัติว่า ต้องใส่ใจและระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

 

เพราะเป็นวันหยุดที่มีช่วงเวลาที่ยาวนาน เพราะฉะนั้นปีนี้ไม่ได้แค่รณรงค์ 7 วันอันตราย แต่รณรงค์ในรูปแบบ 10 วันอันตราย ซึ่งจะครอบคลุมไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568 เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้สัญจรทางถนน ดังนั้นต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยทางราชการ ในการลดอุบัติเหตุให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ พร้อมกันนี้ได้ขอทางให้ทางตำรวจใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดในเรื่องของการจราจร

นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ในส่วนด้านการแพทย์ ได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมในการรับผู้ประสบอุบัติเหตุ หรือผู้บาดเจ็บ ห้องผ่าตัด และแพทย์ฉุกเฉิน โดยให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อให้การสูญเสียชีวิตมีน้อยที่สุด ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ รัฐบาลพร้อม สนับสนุน และอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบ ในช่วงการเดินทางปีใหม่นี้

 

เมื่อถามว่า มีการตั้งเป้ายอดผู้เสียชีวิตให้ลดลงจากปีที่ผ่านมาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งเป้าให้น้อยที่สุดทุกปี เพราะแค่ 1 คน ก็คือความสูญเสีย ดังนั้นการให้ความรู้ ความปลอดภัย การเตรียมความพร้อมของผู้ขับขี่ จะต้องมีความสอดคล้องกัน ส่วนการคุมเข้มรถบัส เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกนั้น เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องของการขาดความรับผิดชอบ และการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะคนขับที่ถูกดำเนินคดี แต่รวมไปถึงเจ้าของรถ หรือบริษัทขนส่งที่รับใบอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ขนส่งจราจรทางบก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โฆษกกทม. คาดภายในคืนนี้ สามารถลดระดับความสูงซาก "ตึกสตง." ถล่ม โซน E ได้ เปิดทางค้นหาต่อเนื่อง
นายกสุพิศ เปิดงานของดี อบต.รัตภูมิ สงขลา หวังต่อยอด เชิดชูอัตลักษณ์ประเพณีท้องถิ่น
ญี่ปุ่นเสนอร่วมโครงการวางท่อก๊าซกับสหรัฐ
มาเลเซียเรียกร้องอาเซียนผนีกกำลังต้านภาษีทรัมป์
โดนหนักแน่ “เอกนัฏ” จ่อฟัน “ซินเคอหยวน” เป็นคดีพิเศษเพิ่ม ลุยสอบซุกฝุ่นแดงมหาศาล
ทรัมป์พร้อมเจรจานานาชาติปมภาษีตอบโต้
สิงคโปร์ส่งแมลงสาบไซบอร์กกู้ภัยแผ่นดินไหวเมียนมา
UNEX EV เปิดตัว'ระบบสลับแบตเตอรี่'ในไทยใช้เวลา 3 นาที
นักวิชาการแนะนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐ ควรพิจารณารอบด้าน หวั่นเจอผลกระทบระยาว ย้ำไทยมีการเลี้ยงได้มาตรฐานสากล
จับตา "ทรัมป์" พร้อมเจรจานานาชาติปมภาษีนำเข้า หลังตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลกดิ่งต่อเนื่อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น