BBC และ AFP รายงานว่าชาวยูเครนได้ตกใจตื่นจากเสียงสัญญานเตือนภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อเวลา 5.30 นาฬิกาของเช้าวันคริสต์มาสตามเวลาท้องถิ่น (25 ธค.) จากนั้นรัสเซียก็ระดมยิงขีปาวุธนำวิถีคาลิเบอร์มาจากทะเลดำ และกองทัพโดรนจำนวนมากเข้าโจมตีโครงสร้างด้านพลังงานทำให้เกิดไฟดับในหลายพื้นที่ทั่วยูเครน
ด้านเซเลนสกี้ออกมาประณามรัสเซียว่าไร้มนุษยธรรม และจงใจโจมตียูเครนในวันคริสต์มาส ซึ่งประชาชนกำลังเฉลิมฉลองและยังเป็นหนึ่งในวันสำคัญที่สุดทางศาสนา พร้อมเผยว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธจำนวนกว่า 70 ลูกและโดรนกว่า 100 ลำ รวมทั้งสิ้น แต่กองทัพอากาศยูเครนสามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้กว่า 50 ลูกและสกัดโดรนได้กว่า 50 ลำ
โดยขีปนาวุธและโดรนได้โจมตีระบบพลังงานที่แคว้นอิวาโน-แฟรงเคียฟสก์ ทำให้โรงผลิตกระแสไฟฟ้าหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และทำให้เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่บางส่วน ขณะที่เมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนก็ถูกขีปนาวุธยิงถล่มอย่างน้อย 12 ลูก ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 6 คน และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 5 แสน 2 หมื่นคนที่กระแสไฟฟ้าและน้ำประปาถูกตัดขาด ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด นอกจากนี้ขีปนาวุธยังตกใส่โครงสร้างพลังงานที่กลางเมืองดนิโปรเปทรอฟสก์, โปลโตว่า, ไซโตมีร์, ซาโปริชเชียและเคียฟ ล่าสุดทีมงานวิศวกรกำลังเร่งซ่อมแซม ซึ่งการโจมตีวันนี้เป็นการโจมตีโครงสร้างด้านพลังงานครั้งที่ 13 ของปีนี้
ทั้งนี้ยูเครนเพิ่งเปลี่ยนวันคริสต์มาสมาเป็น 25 ธันวาคมจากเดิม 7 มกราคมซึ่งเป็นวันที่ชาวคริสต์ออโธด๊อกซ์เฉลิมฉลองกัน เพื่อเป็นการประท้วงรัสเซีย และเพิ่งเปลี่ยนเป็นปีที่สอง ด้านเซเลนสกี้ประกาศลั่นรัสเซียจะไม่มีวันทำลายยูเครนหรือทำลายบรรยากาศคริสต์มาสของชาวยูเครน
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมายืนยันปฏิบัติการโจมตี โดยระบุว่าเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลและโดรนโจมตี และว่าปฎิบัติการครั้งนี้ประสบความสำเร็จ สามารถโจมตีโครงสร้างพลังงานยูเครนได้ตามเป้าหมายทุกแห่ง