“ราชทัณฑ์” แจงกรณีการพักการลงโทษ เป็นไปตามหลัก กม.ที่กำหนดไว้

“ราชทัณฑ์” แจงกรณีการพักการลงโทษ เป็นไปตามหลัก กม.ที่กำหนดไว้

Top news รายงาน จากกรณีเว็บไซต์ไทยโพสต์ ได้มีการเผยแพร่ข่าว พาดหัว 10 กรณีคอร์รัปชันแห่งปี 2567 ป่วยทิพย์ชั้น 14 โกงซ้อนโกง โดยมี ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์ข้อความ พาดพิงกรณีลดโทษพักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาตินั้น

ล่าสุดวันนี้ (25 ธ.ค.67) กรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารชี้แจงว่า การพักการลงโทษเป็นระบบการบริหารโทษประการหนึ่งที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ต้องขังที่ถูกจำคุกมาแล้วระยะเวลาหนึ่ง และผ่านกระบวนการในการพัฒนาพฤตินิสัย มีความประพฤติดี มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ไม่มีความเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำ ได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตในสังคม อันเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านอาชีพ ครอบครัว การปรับตัว ตลอดจนการวางแผนอนาคต ก่อนที่จะครบระยะเวลาต้องโทษ และกลับคืนสู่สังคม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ในระหว่างพักการลงโทษนั้น ผู้ต้องขังจะต้องปฏิบัติตัวตามเงื่อนไขในความควบคุมดูแลของกรมคุมประพฤติจนกว่าจะพ้นโทษตามหมายจำคุกของศาล แต่หากผิดเงื่อนไขก็จะถูกนำตัวกลับไปคุมขังยังเรือนจำต่อไป ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบริหารโทษตามแนวทางดังกล่าวมา ตั้งแต่พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 จนมาสู่พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นฉบับปัจจุบัน

สำหรับข้อกล่าวอ้างที่ว่า จำคุกน้อยปล่อยตัวไวนั้น ขอเรียนว่าผู้ต้องขังทุกรายได้รับการพิจารณาจากคณะทำงานในชั้นเรือนจำ และเสนอต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ที่ประกอบด้วยหน่วยงานภายนอกหลายหน่วยงาน โดยดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และข้อกำหนดภายใต้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 กฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดชาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาด ซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษ และได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ.2562 และฉบับที่ (2) พ.ศ.2564 อย่างเสมอและเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการลงโทษจำคุกตามหมายจำคุกล่าสุด กล่าวคือ ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพิจารณาการพักการลงโทษ กรณีปกติจะต้องจอจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 และเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 2-5 ปี ส่วนผู้ต้องขังที่จะได้รับการพิจารณาพักการลงโทษกรณีพิเศษ เช่น เจ็บป่วยหรือสูงอายุ 70 ปี ต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ดังนั้น การพิจารณาการพักการลงโทษ จึงได้ดำเนินการตามกฎ กติกา ที่ไม่สามารถเลือกปฏิบัติ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้หนึ่งผู้ใดได้

 

กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และชอบด้วยกฎหมาย มิได้เอื้อสิทธิประโยชน์ หรือเลือกปฏิบัติติต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.สอบปากคำเข้ม "เจ้าของงานเลี้ยง-ลูกชาย" ปมจ้าง "แบงค์ เลสเตอร์" 3 หมื่นให้ดื่มเหล้าเพียวจนเสียชีวิต
อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่รถนักข่าวในกาซา
เปิดภาพวงจรปิด แม่สะพายลูกวัย 4 เดือน ขี่รถจยย.ชนท้ายรถบรรทุก แม่ดับ-ลูกสาหัส
คู่หู ‘มนุษย์หิมะ’ ยักษ์ ยิ้มแย้มต้อนรับในจีน
ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นถอดถอนรักษาการณ์ปธน.
หลายประเทศเอเชียจัดพิธีรำลึก 20 ปีสึนามิพัดถล่ม
โรงรับจำนำ กทม. ลดดอกเบี้ยพิเศษ 20% ทุกวงเงิน มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนกรุงฯ
รพ.แม่สอด รุกรับมือ “อหิวาตกโรค” ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ยายเปิดใจ พูดถึงปมเสียชีวิต “แบงค์ เลสเตอร์” น้ำตาซึม ไม่มีหลานคงเคว้งคว้าง
“สุริยะ” จ่อรื้อกฎหมายเพิ่มโทษ "เมาแล้วขับ" หวังลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น