“วรชัย” ซัดคนหน้าเดิมปลุกโจมตี “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” แนะฝ่ายค้านเลิกแค้น มองประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

"วรชัย" ซัดคนหน้าเดิมปลุกโจมตี "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" แนะฝ่ายค้านเลิกแค้น มองประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

วันที่ 2 ม.ค. 68 นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงทิศทางการเมืองปี 2568 ว่า ขณะนี้โลกประสบวิกฤตอย่างมากทั้งสงครามในยูเครน ความรุนแรงในตะวันออกกลาง และสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ หลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ประเทศไทยก็ตกอยู่ในวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ด้วย ประกอบกับการเมืองไทยที่ผ่านมาก็ยังไม่นิ่งเท่าที่ควร ล่าสุดเมื่อกลางปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งถูกคำวินิจฉัยให้พ้นจากการทำหน้าที่ แต่ในเรื่องต่างๆ ก็ยังมีเรื่องที่ดีอยู่ คือการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กลับมาประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เพราะนายทักษิณ มีความรู้ ความสามารถและเป็นคนที่ต่างประเทศให้ความเชื่อมั่น เห็นได้จากการได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน หากอาเซียนเดินได้ประเทศไทยเราก็จะดีไปด้วย ดังนั้นในเรื่องนี้ฝ่ายค้านไม่ควรทำตัวเป็นฝ่ายแค้นและควรเปิดใจมองสถานการณ์โลกและในประเทศไทย เปิดใจยอมรับความรู้ความสามารถของนายทักษิณว่าคนแบบนี้ในประเทศมีอีกหรือไม่ แล้วนำศักยภาพที่ว่าตรงนี้นำมาพัฒนาประเทศจะดีกว่าหรือไม่ เพราะผลงานช่วงที่นายทักษิณ เป็นนายกฯ เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ถ้าเราใช้ศักยภาพของนายทักษิณ ได้เต็มที่เชื่อว่าประเทศไทยจะฟื้นจากวิกฤตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวรชัย กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจจะเดินทางกลับประเทศไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนไทยและเป็นอดีตนายกฯ ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศมากพอสมควร คนไทยทุกคนมีสิทธิกลับประเทศ การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะกลับประเทศแล้วเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่วิธีพิเศษใดๆ นั้นจะไม่สามารถกลับมาไม่เลยหรือ คนที่ออกมาโจมตีในประเด็นดังกล่าวเป็นความพยายามทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่มากกว่าที่จะมองถึงความยุติธรรมและสถานการณ์ของประเทศ การโจมตีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หรืออดีตนายกฯ ทักษิณ ทั้งหมดเกิดจากคนกลุ่มเดิมที่เป็นคู่ขัดแย้งกับอดีตนายกฯ ทั้งสองท่าน และคนเหล่านี้ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเลย หากคนเหล่านี้มีความคิดที่ดีในการทำให้ชาติบ้านเมืองได้พัฒนา ก็ควรจะไปต่อสู้กันตามกระบวนการประชาธิปไตย ว่ากันในสนามเลือกตั้งและรัฐสภา อย่าใช้วิธีปลุกปั่นเพื่อสร้างความขัดแย้งแล้วเรียกรถถังออกมาเหมือนในอดีตอีกเลย เพราะจะเป็นการทำให้ประเทศเสียหาย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ประเทศ ทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจเราก็จะเห็นได้ชัดว่าพี่น้องประชาชนต้องการให้รัฐบาลได้ทำงาน ผลักดันนโยบายในการแก้ไขปัญหามากกว่าที่จะไปใส่ใจกับการปลุกปั่นจุดกระแสเพื่อสร้างความขัดแย้ง อีกทั้งประชาชนมีบทเรียนมาแล้วจากในอดีต จึงเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะไม่ใส่ใจกลุ่มคนที่พยายามปลุกปั่น เพราะทุกฝ่ายมองว่าประเทศชาติจะต้องเดินไปข้างหน้าได้แล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น