สคบ. ถอนทะเบียนธุรกิจขายตรง “ดิไอคอน กรุ๊ป” ชี้สอบพบ “ผู้บริโภค” ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้โดยตรง

สคบ. เพิกถอนทะเบียน การประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของ ดิไอคอนกรุ๊ป ชี้ตรวจสอบพบผู้บริโภคไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้โดยตรง ซ้ำยังมีพฤติกรรมระดมทุน ด้วยการชักชวนให้ร่วมลงทุนเป็นตัวแทนจำหน่ายในตำแหน่งดีลเลอร์ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของธุรกิจขายตรง

สคบ. ถอนทะเบียนธุรกิจขายตรง “ดิไอคอน กรุ๊ป” ชี้สอบพบ “ผู้บริโภค” ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้โดยตรง – Top News รายงาน

สคบ.

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ตามที่ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ได้รับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงให้แก่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2562 เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารและเครื่องสำอาง ผ่านเว็บไซต์ www.theicon.co.th
โดยวิธีการทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูล เพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทาง และมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2565 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ยื่นคำขอแก้ไขช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านเว็บไซต์เป็น www.theicongroup.co.th แต่ภายหลังจากที่ได้รับการจดทะเบียนให้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ว่า เว็บไซต์ www.theicongroup.co.th เมื่อผู้บริโภคเข้าไปดูสินค้าแล้วเลือกรายการสินค้าลงตะกร้าและทำการชำระเงินตามขั้นตอน ปรากฏว่า ไม่สามารถชำระเงิน เพื่อซื้อสินค้าได้โดยเว็บไซต์ดังกล่าวขึ้นข้อความว่า “Something is not right! กรุณาเข้าเว็บไซต์ของตัวแทนเพื่อทำการสั่งซื้อสินค้า”

 

อีกทั้ง ยังมีข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบสวนผู้เสียหายให้ถ้อยคำว่า “ผู้บริโภคไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้โดยตรง จะสั่งซื้อสินค้าได้ต่อเมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านลิงก์ของตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น”

ประกอบกับมีผู้เสียหายให้การว่า หากสามารถชักชวนให้ร่วมลงทุนเป็นตัวแทนจำหน่ายในตำแหน่งดีลเลอร์เป็นเงินลงทุน 250,000 บาท ผู้ชักชวนจะได้รับค่าตอบแทน จากผู้สมัครรายใหม่เป็นเงิน 10,000 – 15,000 บาท ต่อ 1 ดีลเลอร์ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของบริษัทฯ รวมทั้งวิธีการในการดำเนินธุรกิจมีลักษณะที่ไม่ได้มุ่งเน้นในการขายสินค้าให้กับผู้บริโภค แต่กลับมุ่งเน้นให้สมาชิกรายเก่าหาสมาชิกรายใหม่เพื่อให้ได้รับผลตอบแทน ซึ่งรายได้หลักเกิดจากการที่มีผู้สมัครรายใหม่ในตำแหน่งดีลเลอร์ต่อๆ กันไป

รูปแบบการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ มีลักษณะเป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในธุรกิจตลาดแบบตรงโดยตกลงว่า จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545

เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะนายทะเบียน ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 อาศัยอำนาจตามมาตรา 3 มาตรา 5 มาตรา 44 และมาตรา 53 วรรคสอง (3) (5) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 จึงมีคำสั่งเพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของบริษัท ดีไอคอนกรุ๊ป จำกัด เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2568

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ผู้บริหารท็อปนิวส์" ร่วมแสดงความยินดี "ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม" คนใหม่ หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
"ผู้บริหารท็อปนิวส์" เข้าพบ "รมว.วัฒนธรรม" หารือด้านการประชาสัมพันธ์
"ผู้บริหารท็อปนิวส์" ถือฤกษ์ดีเข้าอวยพรปีใหม่ "ปลัดสำนักนายกฯ" พร้อมชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ "พระราชพิธีสมมงคล" 14 ม.ค.นี้
หนีไม่รอด “ไอ้เหน่ง” เอเย่นต์ยายิงสู้ตร.สายไหม จนมุมหลังหนีกบดานประเทศเพื่อนบ้าน
ปิดฉากรัก 13 ปี "ต่อ ธนภพ" เปิดใจทั้งน้ำตา รับเลิกกับแฟนสาวนอกวงการ
บ้านลูกชายไบเดนไหม้เป็นเถ้าในไฟป่าสหรัฐ
โจรจีนเหิม! ก่อเหตุวิ่งราว-ฉ้อโกง 2 คดีซ้อน สูญรวม 13 ล้าน ตร.ยันยังไม่พบความเชื่อมโยงแก๊งเดียวกัน
จีนยุติการค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหวทิเบต
ทิวทัศน์ ‘แม่น้ำเหลือง’ ของจีนกำลังเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง
"ปลัด กทม." กำชับหน่วยงานในสังกัด เร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ลดผลกระทบต่อ ปชช.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น