ปปง.สั่งยึดทรัพย์กว่า 71 ล้าน คดี “ทนายตั้ม” ฟอกเงิน-ฉ้อโกง “เจ๊อ้อย”

ปปง.สั่งยึดทรัพย์กว่า 71 ล้าน คดี "ทนายตั้ม" ฟอกเงิน-ฉ้อโกง "เจ๊อ้อย"

Top news รายงาน จากกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 คณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด โดยหนึ่งในนั้นเป็นคดีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 3 รายการ เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการตรวจสอบคำสั่งธุรกรรมที่ ย.243/2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ระบุว่า ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงาน จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง รายงานการกระทำความผิดมูลฐานรายนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์ แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน กล่าวคือ นางสาวจตุพร อุบลเลิศ โดยนายสมชาติ พินิจอักษร ผู้รับมอบอำนาจ เป็นผู้กล่าวหา

ได้ร้องทุกข์ต่อหนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปากช่อง ให้ดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหา ในความผิดฐานฉ้อโกง เนื่องจากขณะที่นางสาวจตุพร อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส นายษิทรา ได้ชักชวนให้นางสาวจตุพร ลงทุนทำแอปพลิเคชั่น ซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ในประเทศไทย นางสาวจตุพร จึงตัดสินใจลงทุนทำแอพพลิเคชั่นซื้อชายสลากกินแบ่งรัฐบาล ออนไลน์ตามคำชักชวนของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด

โดยโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของตนเอง ที่ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 3,000,000 ยูโร เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของตนเองในประเทศไทย เงินฝากบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขา โลตัสปากช่อง บัญชีเลขที่ ….ชื่อบัญชี นางสาวจตุพร อุบลเลิศ จากนั้นได้โอนเงินต่อให้กับนายษิทรา เข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาโลตัสปากช่อง เลขที่บัญชี… ชื่อบัญชี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จำนวน 2,000,000 ยูโร หรือเป็นเงินไทย 71,076,764.70 บาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้นำสัญญาว่าจ้างเขียนและพัฒนาโปรแกรมแอปพลิเคชั่นซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ ฉบับลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งมีบริษัท อินโนไฟฟ์ จำกัด ผู้รับจ้างเขียนโปรแกรม และต้องส่งมอบงานภายในที่ 1 กันยายน 2567 แต่เมื่อครบกำหนดตามสัญญาปรากฏว่า นางสาวจตุพร ไม่ได้รับมอบแอปพลิเคชั่นซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ตามสัญญาแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากช่อง รับคำร้องทุกข์ไว้ ตามคดีอาญาที่ 930/2567 ต่อมาได้โอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาดังกล่าวให้พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม รับผิดชอบสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว และได้ออกเลขตามสารบบคดีอาญาเป็นคดีอาญาที่ 48/2567 ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติหมายจับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด

ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตามหมายจับ ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” และอนุมัติหมายจับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด (ภรรยาของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” การกระทำของผู้ต้องหาเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดฐานฟอกเงินอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 13/2567 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567

 

 

ที่ประชุม มีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ 686/2567 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงาน การทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว

ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลมูลฐาน ตามมาตรา 3 (14) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่าบุคคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด 3 รายการ พร้อมดอกผล

และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองโดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิ ครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทาง ทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว

 

เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง.อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34(3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 3 รายการ พร้อมดอกผลได้แก่

1) ยึดที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1399913 เลขที่ดิน 343 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 1 งาน 74 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ราคาประเมิน 43,000,000 บาท (สี่สิบสามล้านบาทถ้วน) ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563)

2) อายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขา โลตัส ปากช่อง เลขที่บัญชี … ชื่อบัญชี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ยอดเงินคงเหลือจำนวน 5,535.93 บาท (ห้าพันห้าร้อยสามสิบห้าบาทเก้าสิบสามสตางค์) ข้อมูล ณ วันที่26 พฤจิกายน 2567

3) อายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขา สมุทรสาคร เลขที่บัญชี …. ชื่อบัญชี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ยอดเงินคงเหลือจำนวน 28,461,171.73 บาท (ยี่สิบแปดล้านสี่แสนหกหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเอ็ดบาทเจ็ดสิบสามสตางค์) ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567

รวมราคาประเมิน ทั้งสิ้นประมาณ 71,466,707.64 (เจ็ดสิบเอ็ดล้านสี่แสนหกหมื่นหกพันเจ็ดร้อยเจ็ดบาทหกสิบสี่สตางค์) พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่ วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568

ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย

ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งนี้หรือมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว ประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ

อนึ่ง การยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้หรือที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าจะตกเป็นของแผ่นดิน อาจมีความผิดทางอาญาและต้องระวางโทษตามนัยมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

สั่ง ณ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2567

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

TNLAกร้าว! โค่นทัพพม่า “มินอ่องหล่าย” ฮึ่มกลับ-จ่อส่งบินรบรัสเซียถล่มกบฎ
"นายกฯ" ยันไร้นิติกรรมอำพราง ปมกู้ยืมเงิน 4 พันล้าน มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิดกม.
‘อัจฉริยะ’ ร้องน.1 สอบปมตร.นอกรีต พาพวก อุ้มรีดทรัพย์นทท.จีน
"นายกฯ" เน้นย้ำทุกกระทรวง มุ่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจังต่อเนื่อง
“นายกฯ” เผยครม.ไฟเขียวร่างกม.กาสิโน เชื่อส่งผลดีต่อสังคม
ตูมสนั่น! RCSS ปะทะเดือด SSPP ส่งโดรนบินว่อน-พม่าแห่หนีตายเข้าไทย
"คปท.-ศปปส." ยื่นหนังสือถึงผบ.ตร. เร่งตามเวชระเบียนรักษา "ทักษิณ" นำส่งแพทยสภา
"สรรเพชญ"ฝากนายกฯถกครม.สัญจรสงขลา ดูแก้ปัญหาประมง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคใต้จริงจัง
ฮ่องกงส่งทีมฉก.มาไทยติดตามพลเมืองถูกหลอก
อดีตกุนซือทรัมป์ฟาดอีลอน มัสก์ ปีศาจตัวจริง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น