“คปท.-ศปปส.” ยื่นหนังสือถึงผบ.ตร. เร่งตามเวชระเบียนรักษา “ทักษิณ” นำส่งแพทยสภา
ข่าวที่น่าสนใจ
13 ม.ค.2568 เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. และกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ชัยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว หรือสิงห์ดำ และนายใจเพชร กล้าจน หรือหมอเขียว เดินทางมายื่นหนังสือถึงพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทวงถามถึงการที่แพทยสภาขอเวชระเบียน ประวัติการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพักรักษาตัวใน ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเวลา 180 วันเพื่อต้องการจะทราบข้อเท็จจริงระหว่างการเข้าพักรักษาตัว
โดยบรรยากาศบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมวลชนของกลุ่มต่างๆทยอยเดินทางมาพร้อมกับอุปกรณ์ ที่นำมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทั้งมือตบ นกหวีด และสัญลักษณ์ธงขาติ พร้อมกับปูเสื่อ กางร่มปักหลักรอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเดินทางออกมารับหนังสือ
ด้านนายพิชิต แกนนำ คปท. ระบุว่า วันนี้เดินทางมาเรียกร้องให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดในการติดตามส่งเวชระเบียนประวัติการรักษาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาให้แพทยสภา ซึ่งจะครบกำหนดภายในอีก 2 วัน
โดยวันนี้จะไม่มีการพักครั้งแรมที่บริเวณด้านหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแน่นอน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้มีการติดตามทวงถามความคืบหน้ามาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงเกรงว่า เรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป และหากครบกำหนดแล้วตัวเอง จะเดินทางไปที่แพทยสภาเพื่อสอบถามว่าได้รับเอกสารดังกล่าวแล้วหรือยัง และหากยังไม่ได้รับคำตอบหรือข้อมูล ทางกลุ่มก็จะยกระดับการเคลื่อนไหวเดินทางไป ทวงถามกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นผู้กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 21 มกราคม 2568 โดยจะมีแนวร่วมทั้งอดีต นปช. – กปปส. และกลุ่มพันธมิตร เข้าร่วมในวันนั้นด้วย
นานพิชิต บอกต่อว่า เวชระเบียนประวัติผู้ป่วยมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการพิสูจน์ประวัติการรักษาที่ทางหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. หรือ แพทยสภา จะนำไปพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงของนายทักษิณ หากบริสุทธ์ใจจะลบข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่า การเรียกร้องไม่ใช่ต้องการให้เปิดเผยข้อมูลกับกลุ่มของตัวเอง แต่ต้องการให้เปิดเผยข้อมูลต่างๆต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ ให้สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน
ขณะที่นายใจเพชร หรือหมอเขียวแกนนำกองทัพธรรม ระบุว่า วันนี้ตัวเองพร้อมผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 70 คนได้เดินทางมาเป็นกำลังใจ ให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อผดุงความยุติธรรมดูแลความสงบสุขของประเทศชาติ เพราะหากประเทศไม่มีความยุติธรรม ก็จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ ส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจ แต่หากกระบวนการยุติธรรมถูกรักษาไว้ทุกฝ่ายก็จะมั่นใจ
และการมาร่วมในครั้งนี้ไม่ได้เพียงมาแค่สนับสนุน แต่ต้องการมาร่วมเคลื่อนไหวด้วย และส่วนตัวมองว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้มองที่จำนวนผู้ออกมาเข้าร่วมชุมนุมแต่ต้องการมายืนหยัดให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น และหากการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะต้องยืดเยื้อไปถึงวันที่ 21 มกราคมนี้ หากประเมินแล้วยังไม่มีความคืบหน้าอีกก็คาดว่าจะปักหลักค้างคืนโดยรอบทำเนียบรัฐบาลร่วมกับกลุ่มอื่นๆด้วย
ขณะที่มาตรการการรักษาความปลอดภัยวันนี้ มีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงตำรวจหญิงจำนวนหนึ่ง จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จำนวน 30 นาย ตำรวจสันติบาล 20 นาย และตำรวจปทุมวัน 10 นาย มาตรึงกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุบุคคลที่ 3 มาก่อเหตุความวุ่นวาย รวมถึงนำแผงรั้วเหล็กมากั้นพื้นที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไว้ พร้อมกับสื่อมวลชนจาก หลายสำนักที่เดินทางมาปักหลักรอติดตามรายงานข่าวโดยตำรวจขอความร่วมมือให้อยู่ภายนอกหรือว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น