‘อัจฉริยะ’ ร้องน.1 สอบปมตร.นอกรีต พาพวก อุ้มรีดทรัพย์นทท.จีน

‘อัจฉริยะ’ ร้องน.1 สอบปมตร.นอกรีต พาพวก อุ้มรีดทรัพย์นทท.จีน

วันนี้ (13 ม.ค. 68) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญา กรณีมีขบวนการอุ้มนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและและรีดเงิน โดยในหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีแห่งหนึ่ง (สน.ประเวศ) รวมอยู่ด้วย

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายคือ น.ส.ยูจิน วิทยากรผู้บรรยายธุรกิจชาวจีน ซึ่งรู้จักกับ นายแดเนียล ชาวสิงคโปร์ ผ่านเฟซบุ๊กประมาณ 3 ปี โดยผู้เสียหายเพิ่งเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยครั้งแรกและเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่บางรัก เมื่อนายแดเนียลทราบจึงติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์ ชักชวนไปเที่ยวและนัดเจอที่ตลาดกลางคืน ก่อนที่ผู้เสียหายจะขอแยกพาครอบครัวไปร้านนวด แต่เมื่อผู้เสียหายกลับโรงแรมก็ว่าพบมีชาย 2 คน อ้างตัวเป็นตํารวจพยายามจะพาผู้เสียหายไปยังสถานีตำรวจโดยบอกว่า ผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุหลอกเงินหญิงชาวไทย ผู้เสียหายจึงโทรหานายแดเนียลเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อนายแดเนียลมาถึง ก็มีนายตำรวจระดับสารวัตร เข้ามาแสดงตัวพร้อมบัตรประจำตัวข้าราชการาตำรวจแล้วพาผู้เสียหายไปยังสถานี

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อไปถึงสถานีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ยึดพาสปอร์ตและข่มขู่ผู้เสียหายทุกรูปแบบ พร้อมเรียกเงิน 70 ล้านบาท ระหว่างนั้นมีนางนกต่อเป็นหญิงชาวไทยเข้ามาร่วมข่มขู่ด้วย โดยอ้างเป็นผู้เสียหายที่ถูก น.ส.ยูจิน หลอก นายแดเนียล จึงเกลี้ยกล่อมให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน ผู้เสียหายจึงจำใจต้องยอมจ่ายเงินให้บางส่วนประมาณ 200,000 USDT ประมาณ 7 ล้านบาท จึงถูกปล่อยตัว

 

 

นายอัจฉริยะ ให้ข้อมูลต่อไปว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายต้องรีบเดินทางกลับจีน จึงส่งทนายความไปแจ้งความไว้ที่ สน.พญาไท แต่ตํารวจอ้างว่าไม่ใช่พื้นที่เกิดเหตุ และโอนคดีไปยังสน.ต้นเรื่อง ก็คือสน.บางรัก จากนั้น ตํารวจโรงพักดังกล่าวได้เรียกตบทรัพย์ผู้เสียหาย อีกหลายครั้งรวม 2.6 แสนบาท อ้างเป็นค่าอํานวยความสะดวก แต่สุดท้ายคดีไม่คืบ ผู้เสียหายจึงตัดสินใจไลฟ์สดเตือนคนจีนด้วยกันว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อันตราย ก่อนจะมาร้องขอให้นายอัจฉริยะช่วย

ทั้งนี้ นอกจาก นายอัจฉริยะ จะเปิดหลักฐานคลิปเสียงการตบทรัพย์แล้วยังมีเอกสารรูปถ่ายต่างๆมาแสดงให้สื่อมวลชนดูเป็นหลักฐาน พร้อมฝากถึง นายกรัฐมนตรีและ ผบ.ตร. ให้ออกมาตรการในการปราบปรามตํารวจนอกรีตให้หมดไป เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศชาติเป็นอย่างมาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กสทช.ขีดเส้น 2 แบรนด์มือถือ ลบแอปฯ เงินกู้นอกระบบ 16 ม.ค.นี้ พร้อมสั่งหยุดจำหน่ายสินค้าหากพบข้อผิดพลาดอยู่
"พิธีสืบพระชะตาหลวง" เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีสมมงคล 2568
สหรัฐ: ทรัมป์ตำหนิผู้นำแคลิฟอร์เนียไร้น้ำยารับมือไฟป่า
ผบช.น.เร่งขยายผล ล่าตัวผู้มีพระคุณ "จ่าเอ็ม" จ้างฆ่า "ลิม กิมยา" อดีต สส.กัมพูชา พร้อมออกหมายแดงคนชี้เป้าแล้ว
เมียนมา อนุญาตให้ กมธ.ทหาร เข้าพบ '4 ลูกเรือไทย' แล้ว ผู้ช่วย รมต.กต. ขออย่านำประเด็นโจมตีการเมือง
พร้อมให้โอกาส เปิดวิธีลงทะเบียนจองสิทธิ์ "บ้านเพื่อคนไทย" คุณสมบัติ เงื่อนไข รีบเช็กเลย
ตร.บุกยึด Sim Box แก๊งคอลเซนเตอร์ 8 เครื่อง ซุกคอนโด ย่านลาดพร้าว หลังพบโทรหลอกเหยื่อ 
ตำรวจสอบสวนกลาง รวบขบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติ จับตัวชาวไทย-เมียนมา 18 ราย พื้นที่สงขลา
"นักวิชาการ" เปิดเหตุผล ทำไมไทยหนาวนาน แถมรอบนี้อากาศเย็นมากกว่าปกติ
ศาลอุทธรณ์สั่งคุก "ผู้ต้องหา" ฆ่า "พี่เตี้ย มช." 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ชดใช้ค่าเสียหาย 1 แสนบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น