เปิดตัวเลข ถ้า "มหาดไทย" เพิกถอนสิทธิที่ดิน "อัลไพน์" กระทบ ชาวบ้านซื้อบ้าน-ที่ดินมูลค่ากว่า 5 พันล้าน
ข่าวที่น่าสนใจ
สืบเนื่องจากการที่ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยกับท็อปนิวส์ว่า เรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์พ้นจากกรมที่ดินเป็นสิบปีแล้ว และเรื่องทั้งหมดในตอนนี้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย โดยเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านความมั่นคงภายใน เพราะในส่วนของกรมที่ดินได้เสนอไปตามแนวทางก่อนหน้านี้มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาทางกระทรวงมหาดไทยได้สอบถามประเด็นต่าง ๆ มาที่กรมที่ดิน เพื่อให้เกิดความรอบครอบ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย ได้เซ็นหนังสือเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารแล้วนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการเซ็นเพิกถอน แต่เป็นการเซ็นหนังสือคำสั่งไปที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือไปยังสำนักงานกฤษฎีกา ก่อนกลับมาดำเนินการให้รอบคอบ ซึ่งเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ตอนนี้อยู่ในอำนาจของสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านความมั่นคง ไม่ใช่กรมที่ดินแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า หากกระบวนการเพิกถอนเสร็จสิ้นแล้วที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ต้องกลับไปเป็นของวัดโดยการดูแลของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติใช่หรือไม่ นายพรพจน์ กล่าวว่า ต้องเป็นแบบนั้น แต่ถ้ากระทรวงมหาดไทยโดยสำนักปลัดฯเซ็นมาเมื่อใด กรมที่ดินมีหน้าที่เตรียมรับการเพิกถอนการทำนิติกรรม เพื่อให้ที่ดินกลับมาเป็นของวัด ส่วนวัดจำทำอย่างไร จะให้เช่าก็เป็นส่วนของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่จะต้องพิจารณาต่อไป
“สิ่งหนึ่งที่จะต้องโดนแน่คือถูกผู้เสียหายฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพราะที่ผ่านมาเป็นการทำนิติกรรมคลาดเลื่อน อีกทั้งที่ดินก็เปลี่ยนมือมาจนทำให้เกิดมูลค่า ซึ่งตอนนี้กรมที่ดินก็ตั้งรับ และขึ้นอยู่ว่ากระทรวงจะเซ็นมาเมื่อใด ส่วนของท่านชาดาเป็นการเซ็นหนังสือสั่งให้สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องเพิกถอน หรือไม่เพิกถอนเท่านั้น”
นายพรพจน์ ตอบคำถาม หากกระบวนการเพิกถอนเสร็จสิ้นแล้วที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ต้องกลับไปเป็นของวัดโดยการดูแลของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ใช่หรือไม่ ว่า ต้องเป็นแบบนั้น แต่ถ้ากระทรวงมหาดไทยเซ็นมาเมื่อใด กรมที่ดินมีหน้าที่เตรียมรับการเพิกถอนในการทำนิติกรรม เพื่อให้ที่ดินกลับมาเป็นของวัด ส่วนวัดจำทำอย่างไร จะให้เช่าก็เป็นส่วนของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่จะต้องพิจารณาต่อไป
“สิ่งหนึ่งที่จะต้องโดนแน่คือถูกผู้เสียหายฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพราะที่ผ่านมาเป็นการทำนิติกรรมคลาดเลื่อน อีกทั้งที่ดินก็เปลี่ยนมือมาจนทำให้เกิดมูลค่า ซึ่งตอนนี้กรมที่ดินก็ตั้งรับ และขึ้นอยู่ว่ากระทรวงมหาดไทยจะส่งหนังสือมาเมื่อใด ส่วนของท่านชาดาเป็นการเซ็นหนังสือสั่งให้สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องเพิกถอน หรือไม่เพิกถอนเท่านั้น ไม่ใช่เซ็นให้เพิกถอนกรรมสิทธิตามที่เป็นข่าว”
ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยกับท็อปนิวส์ ว่า สำนักพุทธศาสนายังไม่ทราบข้อมูลในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นสำนักพุทธศาสนาต้องมีข้อมูลชัดเจนจึงจะชี้แจงได้
ทั้งนี้จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า กรณีหากกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้เพิกถอนกรรมสิทธิที่ดินสนามกอล์ฟ และ อัลไพน์จริง จะมีความเกี่ยวเนื่องกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
1.โฉนดที่ดินจำนวน 650 แปลง
2.จำนวนผู้ถือกรรมสิทธิ์ 530 ราย
3.แยกเป็นที่ดินติดจํานองทั้งหมด 168 แปลง
4. ผู้รับจํานองที่ดิน 30 ราย
5. ผู้จํานอง 209 ราย
6. จำนวนทุนทรัพย์จํานอง 439,056,549 บาท
ขณะที่ราคาประเมินที่ดินโครงการสนามกอล์ฟ และบ้านจัดสรร อยู่ที่ประมาณ 3,071,318,491 บาท ราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างปัจจุบัน 160,787,807 บาท รวมราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,232,106,294 บาท ส่วนมูลค่าความเสียหายของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยประมาณ อยู่ที่ 5,433,505,840 บาท และมูลค่าความเสียหาย โดยประมาณ รวมถึงทุนทรัพย์จํานองโดยประมาณ อยู่ที่ 5,872,562,390 บาท
“ขอตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ผู้ป่วยถูกส่งต่อการรักษาไปที่รพ.ตำรวจ จนกระทั่งผู้ป่วยถูกจำหน่ายออกจากรพ. ตำรวจ ซึ่งถือว่าเกี่ยวข้องกับการพิจารณาจริยธรรมในครั้งนี้ โดยขอให้ท่านทำคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานที่สนับสนุนคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตามประเด็นข้างต้น โดยให้ส่งมาให้คณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจภายใน วันที่ 15 มกราคม 2568 “เอกสารสำคัญของแพทยสภาดังกล่าวระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง