“ทัพพม่า”จัดหนัก! ส่งเดนตายไล่ตีคืนทีละค่าย บินรบรัสเซียหย่อนบึ้มตูมสนั่น

“บังกลาเทศ” ปิดประตูตาย! ผลักดันผู้ลี้ภัยจำนวนมาก กลับเข้าไปในเมียนมา ด้าน “กองทัพรัฐบาล” เร่งเกมเผด็จศึก ส่งทหารไล่ตีชิงพื้นที่คืน

“ทัพพม่า”จัดหนัก! ส่งเดนตายไล่ตีคืนทีละค่าย บินรบรัสเซียหย่อนบึ้มตูมสนั่น

ข่าวที่น่าสนใจ

สถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมายังคงดุเดือดในหลายพื้นที่ ซึ่งทั้งทางฝ่ายกองทัพทหารเมียนมา และฝ่ายต่อต้าน ต่างสูญเสียกำลังพล และอาวุธไปเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงหลังจะเห็นได้ว่าฝ่ายต่อต้านต่างพากันฮึกเหิม และเข้าตีกองทัพเมียนมาแตกไปหลายค่าย ยึดพื้นที่ไปเป็นจำนวนมาก

 

แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่ารัฐบาลเมียนมาจะเร่งเกมเผด็จศึกเอาคืนบ้างแล้ว โดยเพจมองการเมืองพม่า เปิดเผยข้อมูลจาก ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมา เพิ่มความเข้มข้นของยุทธศาสตร์ยึดพื้นที่คืน ในปี 2024 ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาสูญเสียพื้นที่หลายแห่งจากการสู้รบ และได้เพิ่มความเข้มข้นในการใช้ยุทธศาสตร์ยึดพื้นที่คืน ในเขตที่กองกำลังชาติพันธุ์ฝ่ายต่อต้าน ควบคุมอยู่ ตามรายงานขององค์การเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชน หรือ ฮิวแมนไรท์วอทช์

รายงานสถานการณ์โลกประจำปี 2025 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มกราคม ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ได้กระทำการโจมตีที่ละเมิดกฎหมาย โดยไม่แยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหาร และพลเรือน รวมถึงการโจมตีทางอากาศ การสังหาร และการเผาอาคารที่อยู่อาศัย และโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน

ฮิวแมนไรท์วอทช์ อ้างด้วยว่า การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยข้อมูลบันทึกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 ระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 889 คน อันเป็นผลจากกับระเบิด และอาวุธที่หลงเหลือจากสงคราม ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า เมียนมาเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศ ที่ยังคงใช้กับระเบิดในการสู้รบ โดยระหว่างเดือนพฤษภาคม 2021 ถึงเดือนสิงหาคม 2024 มีรายงานว่า บ้านเรือนกว่า 100,000 หลัง ในพื้นที่ของเขตสะกาย ถูกเผาทำลายโดยกองทัพ

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ความขัดแย้งในรัฐยะไข่ และรัฐชินตอนใต้ ส่งผลให้มีประชาชนกว่า 380,000 คน รวมถึงชาวโรฮิงญา ต้องหนีออกจากบ้านเรือน และหลายหมื่นคนได้หลบหนีข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กองกำลังรักษาชายแดนของบังกลาเทศ ได้ผลักดันผู้ลี้ภัยจำนวนมาก กลับเข้าไปในเมียนมา

ด้านรัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแทส ว่า เครื่องบินรบเหล่านี้ จะถูกจัดเก็บไว้ที่ฐานทัพอากาศในกรุงเนปิดอว์ และจะถูกใช้ในการปฏิบัติการทั่วประเทศ

ในวันเดียวกัน เมียนมายังได้รับการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 จำนวน 6 ลำ, เครื่องบินรบ FTC-2000G จำนวน 6 ลำ, เครื่องบินรบ K-8W จำนวน 1 ลำ และเครื่องบินสนับสนุน Y-8 อีก 1 ลำ จากรัสเซียและจีน

สำหรับเครื่องบินรบ Su-30 SME เป็นรุ่นปรับปรุงจาก Su-30 โดยติดตั้งเครื่องยนต์คู่ รองรับนักบิน 2 คน มีความสามารถในการบินที่ความเร็วสูงสุด Mach 2.0 ที่ระดับความสูง 17,300 เมตร และสามารถบินได้ไกลถึง 3,000 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งอาวุธ 12 จุด

 

และที่สำคัญ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังมีแผนการที่จะส่งทหารรัสเซีย มายังประเทศเมียนมาในปีนี้ เพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้นในเมียนมาอีกด้วย งานนี้บอกเลยว่าฝ่ายต่อต้านกลุ่มต่างๆ ต่างพากันออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านกันยกใหญ่เลยทีเดียว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดเศร้า "สาวไทยวัย 30 " จบชีวิตในห้องน้ำห้างดังมาเลเซีย ล่าสุดครอบครัว-ญาติ รู้ข่าวแล้ว
"พิพัฒน์" เปิดโครงการก.แรงงานพบประชาชน สนับสนุนการเข้าถึงโอกาสตำแหน่งงาน พัฒนาอาชีพบุคคล
"สำนักงานสลากฯ" เห็นชอบขายสลาก N3 ต่อเนื่อง งวดละ 5 ล้านรายการ พร้อมเพิ่มผู้แทนเดินจำหน่าย
ระทึก จนท.ช่วย "ช้างป่า" ขึ้นจากสระน้ำ ก่อนทำร้ายชาวบ้านบาดเจ็บสาหัส
ทางการจีนขอบคุณตร.ไทย ช่วยพลเมือง "ดารานายแบบ-เหยื่อชาวจีน" พ้นเงื้อมมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“นายกฯ” ยินดี “กรุงเทพฯ” ติดอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 ย้ำรบ.เร่งเดินหน้าพัฒนาทั่วประเทศ
"ทักษิณ" หาเสียงอบจ.หนองคาย ยันลุยแก้หนี้-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มั่นใจลดค่าไฟต่ำกว่า 3.70 บาท
"เจ้าของร้านทอง" ไหวพริบดี ช่วย "เหยื่อ" จากแก๊งคอลฯ หลังมิจฉาชีพอ้างเป็น ตร.บังคับขายทอง
‘อ.ปรเมศวร์’ วิเคราะห์ชัด ทำไมรื้อ‘คดีแตงโม’ ถึงเป็นไปได้ยาก
รองโฆษกฯ เผย ไทยหนาวอีกรอบ 19-24 ม.ค.นี้ เตือนปชช.เฝ้าระวัง 4 กลุ่มโรคภัยสุขภาพ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น