‘อ.ปรเมศวร์’ วิเคราะห์ชัด ทำไมรื้อ‘คดีแตงโม’ ถึงเป็นไปได้ยาก
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ,นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้มีความพยายามจะออกมาจุดประเด็นเกี่ยวกับการตายอย่างมีเงื่อนงำของดาราสาว แตงโม นิดา หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดัง ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 กระทั่งกลายเป็นที่จับตาของสังคม สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตของดราสาวรายนี้ แท้ที่จริงแล้วเป็นอุบัติเหตุหรือ ฆาตกรรมอำพราง กันแน่ กระทั่งนำไปสู่การจำลองเหตุการณ์ แตงโม นิดา ตกน้ำ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่นายอัจฉริยะ จะนำข้อมูลจากการจำลองเหตุการณ์ มอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาว่าจะสามารถรื้อฟื้นคดีดังกล่าวได้หรือไม่
ล่าสุดวันนี้ ( 19 ม.ค.) นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวท็อปนิวส์ เกี่ยวกับความเห็นด้านกฎหมาย เกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีดังกล่าว โดยอธิบายเกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์ “แตงโมตกเรือ” ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า บาดแผลที่บริเวณต้นขาขวาด้านในของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ขณะที่พลัดตกจากเรือ เพราะหากย้อนกลับไปดูคลิปเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น จะเห็นว่ามีการวนเรือตามหาแตงโมหลายรอบ
และโดยธรรมชาติคนตกน้ำ ก็ไม่ใช่จะจมน้ำทันที ขณะที่แพทย์ชันสูตร ก็ให้ความเห็นเพียงว่า บาดแผลเกิดจากของแข็งมีคม แต่ข้อเท็จจริงไม่ทราบได้แน่ชัด ว่า เป็นใบพัดเรือหรือไม่ การจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงถือว่าได้ประโยชน์ในแง่ที่ทำให้สังคมเห็นข้อเท็จจริง ว่า โอกาสถูกใบพัดเรือบาดขณะพลัดตกนั้นเป็นไปได้ยากมาก แต่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกเหนือจากนี้ เพราะไม่ได้ปรากฏพยานหลักฐานอะไร ชี้ชัดว่าเป็นการเจตนาฆ่า ซึ่งจะต้องมีพยานหลักฐานมากกว่านี้ เช่น ใครเป็นคนฆ่า? มูลเหตุจูงใจคืออะไร? ต้องอธิบายให้ได้ครบทุกมิติ เพื่อให้สามารถยุติข้อเท็จจริงได้
นายปรเมศวร์ ยังกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ข้อเท็จจริงมีเพียงอย่างเดียว คือ แตงโมเสียชีวิตจากการจมน้ำ ส่วนสาเหตุที่จมน้ำยังถกเถียงกันอยู่ แต่ในสำนวนของตำรวจ ระบว่าเกิดจากความประมาทที่สำคัญแม่ของแตงโม ก็ไม่ติดใจเอาความไปแล้วด้วย ความพยายามที่จะให้มีการแก้ฟ้องอัยการ หรือรื้อคดีใหม่นั้น จึงไม่สามารถทำได้หรือเป็นไปได้ยาก ต้องไม่ลืมว่า คดีนี้เดินมาด้วยข้อหา “ประมาท” และในการกระทำ 1 ครั้ง สามารถสอบสวนได้เพียง 1 ครั้ง และส่งฟ้องได้แค่ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ นายปรเมศวร์ ยังกล่าวเพิ่มว่า ในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการเจตนาฆ่า จึงมีประโยชน์เพียงทำให้สังคมรับรู้ ว่า พนักงานสืบสวนทำงานไม่รอบคอบ ด่วนสรุปเกินไป ซึ่งก็จะไปส่งผลกระทบต่อความไม่น่าเชื่อของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบกับพนักงานสอบสวน จึงถือเป็นการคืนความยุติธรรมให้กับแตงโม และสังคม แต่ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ต้องหาบนเรือเลย
อย่างไรก็ตาม แม้คดีของแตงโมจะฟ้องด้วยข้อหาประมาท แต่หากมีพยานหลักฐานทำให้ศาลเห็นว่า เป็นการเจตนาฆ่า ศาลสามารถลงโทษในข้อหาเจตนาฆ่าได้อยู่แล้ว เพียงแต่โทษที่ได้รับจะไม่เกินไปกว่าข้อหาประมาทที่ได้ยื่นฟ้องไว้ เนื่องจากตามกฎหมายศาลจะไม่ลงโทษจำเลยเกินกว่าที่ระบุในคำฟ้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น