“เซเลนสกี” อกแตก “ทรัมป์-ปูติน”ส่งซิกหากัน

"เซเลนสกี"เงิบหนัก "ทรัมป์"ไม่พูดถึง"ยูเครน"ในพิธีสาบานตน ด้าน "ปูติน" แสดงความยินดี พร้อมส่งสัญญานเปิดกว้างเจรจา เห็นด้วย ไม่กระพือ สงครามโลกครั้งที่ 3 ขณะ"ลาฟรอฟ" มอง นโยบายต่างประเทศของทรัมป์ จะกำหนดระเบียบโลกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการพูดคุยของ "ผู้นำสหรัฐ-รัสเซีย" น่าจะต้องใช้เวลาเตรียมการพักใหญ่

“เซเลนสกี” อกแตก “ทรัมป์-ปูติน”ส่งซิกหากัน

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ ทรัมป์ ไม่ได้กล่าวถึงความขัดแย้งในยูเครนโดยตรง

ทรัมป์ กล่าวว่า เรามีรัฐบาลที่ให้เงินทุนอย่างไม่จำกัด ในการป้องกันพรมแดนต่างประเทศ  แต่ปฏิเสธที่จะปกป้องผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอเมริกัน หรือที่สำคัญกว่านั้นคือ ประชาชนชาวอเมริกันทั้งหมด  ซึ่งดูเหมือนว่า จะเป็นการพาดพิงนโยบายของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนอย่างเต็มที่

ทรัมป์ กล่าวด้วยว่า เราจะวัดความสำเร็จของเรา ไม่เพียงแค่จากสงครามที่เราชนะ แต่ยังรวมถึง สงครามที่เรายุติได้ และที่สำคัญที่สุดคือ สงครามที่เราไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย  ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ มักอ้างอยู่บ่อยครั้งว่า สงครามยูเครนที่ปะทุขึ้นเมื่อเดือนก.พ. 2565 จะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย หากเขาเป็นประธานาธิบดี ในขณะนั้น

ขณะ RT รายงาน ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในการประชุม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ และยินดีกับความตั้งใจของเขา ที่ประกาศไว้ในการกลับมาติดต่อระหว่างสองประเทศอีกครั้ง

 

ปูติน กล่าวว่า เรากำลังได้ยินคำกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง และสมาชิกในทีมของเขา เกี่ยวกับความปรารถนาที่จะฟื้นฟูการติดต่อโดยตรงกับรัสเซีย ซึ่งถูกระงับโดยรัฐบาลชุดที่พ้นจากตำแหน่ง

 

 

นอกจากนี้ เรายังได้ยินคำกล่าวของเขา เกี่ยวกับความจำเป็นในการทำทุกอย่าง เพื่อป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 3  ซึ่งแน่นอนว่า เรายินดีต้อนรับทัศนคติเช่นนี้ และขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีสหรัฐ ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ด้วย”

ปูติน ระบุด้วยว่า พร้อมเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยกับรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ในประเด็นระดับโลกที่สำคัญ รวมถึง เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ ความมั่นคง สงครามในยูเครน และว่า ทางออกสำหรับสถานการณ์ในยูเครน ตนอยากจะย้ำว่า เป้าหมายของเรา ไม่ใช่การหยุดยิงระยะสั้น  ไม่ใช่การพักรบชั่วคราวเพื่อรวบรวมกำลังพลและติดอาวุธเพิ่ม  แต่เป็นสันติภาพในระยะยาว ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชนทั้งหมด และทุก ๆ คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้”

ก่อนหน้านี้ ปูติน เคยกล่าวไว้ว่า เขาพร้อมที่จะพูดคุยภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ดินแดนซึ่งรัสเซียยึดครองมาได้แล้ว ก็จะต้องถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งผู้นำยูเครน ไม่สามารถรับข้อตกลงนี้ได้

ประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า รัสเซีย ไม่เคย“ปฏิเสธการเจรจา” กับวอชิงตัน และแสดงความพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐ เสมอมา  ปูติน ย้ำว่า รัสเซีย ยังคงยึดมั่นในหลักการของตน และเชื่อว่า การเจรจาจะต้องสร้างขึ้นบนพื้นฐานที่ เท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน

 

 

คำกล่าวของผู้นำรัสเซีย สะท้อนความคาดหวังอย่างระมัดระวังว่า ทรัมป์ อาจจะเข้ามาฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 มหาอำนาจ ซึ่งเข้าสู่จุดตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา เมื่อปี 1962 สืบเนื่องจาก การที่ รัสเซีย เปิดสงครามรุกรานยูเครน แม้เจ้าหน้าที่รัฐบาลมอสโกหลายคน จะยอมรับความหวังดังกล่าว อาจ”ไม่เป็นจริง” ขึ้นมาได้ก็ตาม

ทั้งนี้ ทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะเจรจากับปูตินหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อยุติความขัดแย้ง ระหว่างรัสเซียและยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ประกาศว่า เขาวางแผนที่จะพบกับปูตินโดยเร็วที่สุด หลังจากเข้ารับตำแหน่ง

 

ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ ว่า “ฉันรู้ว่าเขา ต้องการพบ และฉันจะพบเขาในเร็วๆ นี้”  คาดว่า การพบปะกันแบบตัวต่อตัว ระหว่างผู้นำทั้งสอง จะเกิดขึ้นก่อนด้วยการพูดคุยทางโทรศัพท์ มอสโก ส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการติดต่อกับรัฐบาลชุดใหม่หลายครั้งแล้วเช่นกัน  อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของเครมลิน ยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัดว่า การพบปะกันครั้งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด หรือ ที่ใด

 

ขณะเดียวกัน เซอร์เก้ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้แสดงความเห็น ระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เกี่ยวกับการเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐว่า หลังจากที่ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 47 ทำให้เกิดการคาดเดากันมากขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลของเขา ต่อความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยูเครน รวมถึงประเด็นอื่น ๆ

 

 

ดังนั้น หลายอย่างจึงขึ้นอยู่กับสหรัฐเป็นอันดับแรก เนื่องจากยุโรปและพันธมิตรในเอเชียของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ต่างมุ่งความสนใจไปที่ตำแหน่งของทำเนียบขาวอย่างเต็มที่ และในแง่นี้ พวกเขากำลังรอคอยที่จะดูว่า ตำแหน่งนี้จะเป็นอย่างไรในรูปแบบสุดท้าย  อย่างไรก็ดี ยังไม่ชัดเจนว่า คำสัญญาของทรัมป์ จะสอดคล้องกับการกระทำของเขาหรือไม่

ด้าน อเล็กซานเดอร์ ยูนาเชฟ นักข่าวแห่งทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ก็รายงานว่า การประชุมที่อาจเกิดขึ้น ระหว่าง ปูติ และทรัมป์ จะต้องใช้เวลานานหลายเดือน ในการจัดเตรียม และไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนที่ ทรัมป์ จะเดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก / ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการเจรจาแบบตัวต่อตัวระหว่างผู้นำทั้งสอง ซึ่งคาดว่า พวกเขา จะมีการสนทนาทางโทรศัพท์ เพื่อหารือรายละเอียดของการพบปะ ที่อาจเกิดขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นักธุรกิจ" เข้าแจ้งความ หลังถูกหลอกลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล เสียหาย 50 ล้านบาท
มือมีดต่างชาติไล่แทงคนเจ็บ 5 ในอิสราเอล
ทรัมป์เผยอาจเพิ่มคว่ำบาตรรัสเซียถ้าไม่ยอมเจรจา
ทรัมป์จ่อขึ้นภาษีจีน 1 ก.พ.-รูบิโอทำงานวันแรก
22 รัฐในสหรัฐฯ ฟ้องศาลต้านคำสั่งทรัมป์ ตัดสิทธิให้สัญชาติอัตโนมัติ
ทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือตปท. 90 วัน
"เนาวรัตน์" ร่ายกลอน เตือนอำนาจนอกกม.ไม่มีใครรวยด้วยการพนัน
สถานการณ์น่าห่วง "กทม." จมฝุ่นพิษ แดงเข้ม 6 พื้นที่ ส่งผลต่อสุขภาพ
ศาลสั่งจำคุก "ทนายเดชา" 1 ปี ปรับ 6 หมื่น คดีหมิ่นประมาท "อ.อ๊อด"
สลด สาวขับเบนซ์พุ่งชน จยย.กระเด็นเสียชีวิต 2 ราย กลางถนนเสนานิคม-จตุจักร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น