พยาบาลตำรวจฮีโร่ เล่านาทีช่วยชีวิตชายชราญี่ปุ่น ภายในสถานีรถไฟใต้ดินกินซ่า สุดภูมิใจ ได้ใช้วิชาชีพทำประโยชน์
ข่าวที่น่าสนใจ
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.หญิง สุนารี เขียวสลับ พยาบาล (สบ 1) กลุ่มงานศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล กลุ่มงานพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ ได้ช่วยเหลือผู้สูงอายุเพศชาย ซึ่งเป็นลมหมดสติ บริเวณสถานีรถไฟใต้ดินสายกินซ่า สถานีอาซากูซะ เมืองโตเกียว ขณะเดินทางท่องเที่ยว ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ทักษะทางวิชาชีพในการประเมินอาการ ระดับความรู้สึกตัวและสัญญาณชีพ จนพบว่า ชายสูงอายุไม่รู้สึกตัว คลำชีพจรไม่ได้ จึงทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) และแจ้งขอเครื่อง AED จากเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟใต้ดิน เมื่อเครื่อง AED มาถึง ได้หยุด CPR และติดแผ่น Paddle AED เตรียมใช้เครื่อง AED กระทั่งผู้ป่วยกลับมามีชีพจร จึงไม่ได้ทำการ shock ไฟฟ้าหัวใจ ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุ จึงนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (24 ม.ค. 68) ที่สำนักงานแพทย์ใหญ่ ชั้น 21 (ห้องกายภาพ VIP) อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา (มภร.) ได้แถลงข่าวพร้อมสาธิตการทำ CPR กับหุ่น ช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ประสบเหตุเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในเบื้องต้น โดยมี ร.ต.ท.หญิง สุนารี เขียวสลับ พยาบาล(สบ 1) กลุ่มงานศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ และพ.ต.ท.นพ.อภิวัฒน์ จันทร์แสงฟ้า นายแพทย์ (สบ.3) กลุ่มงานกุมารีเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึง โฆษก รพ.ตร. ร่วมสังเกตุการณ์
ร.ต.ท.หญิง สุนารี ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ว่า พบผู้สูงอายุชายชาวญี่ปุ่น หมดสติ ระหว่างเดินทางใช้รถไฟฟ้าใต้ดินที่ประเทศญี่ปุ่น จึงได้ประเมินสถานการณ์ความช่วยเหลือ และเริ่มทำ CPR ก่อนจะเรียกขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ประจำสถานี เพื่อเครื่อง AED มาใช้ในการช่วยชายสูงอายุคนดังกล่าว โดยระหว่างที่ทำ CPR ไปประมาณ 2 นาที สัญญาณชีพของผู้สูงอายุคนดังกล่าวก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลาย ตนจึงเดินทางท่องเที่ยวตามโปรแกรมต่อไป
ส่วนประเด็นที่ได้รับการชื่นชม ทางโซเชียลนั้น ส่วนตัวรู้สึกขอบคุณทุกท่าน ตนเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ได้มีการฝึกมาจากกลุ่มงานพยาบาล เรียนรู้การฝึกให้มีการประเมินให้ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน และระดับสูง ทุกปีอยู่แล้ว จึงมีวิชาชีพนี้ติดตัว ดังนั้นพอได้ไปใช้วิชาชีพนี้ ช่วยให้ผู้สูงอายุคนดังกล่าวฟื้นขึ้นมาได้ และที่พิเศษคือเป็น สถานการณ์ในต่างประเทศด้วย ก็ยิ่ง รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ทั้งโรงพยาบาลและทั้งประเทศไทยของเรา
ด้านพ.ต.ท.นพ.อภิวัฒน์ จันทร์แสงฟ้า นายแพทย์ (สบ 3) กลุ่มงานกุมารีเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ร.ต.ท.หญิง สุนารี ได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยหมดสติด้วยการทำ CPR ได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงทีจึงช่วยให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น และมีอาการดีขึ้น ต้องถือว่าเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็ว ช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิตมากขึ้น ความช่วยเหลือดังกล่าวนี้ เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น หรือ การกู้ชีพเบื้องต้น ซึ่งประกอบไปด้วยเรื่องของการกดหน้าอก และการใช้เครื่อง AED ระหว่างนั้นการปฏิบัติความช่วยเหลือก็ต้องทำให้เลือดไปเลี้ยงสมอง เพื่อรอทีมแพทย์ทีมมาช่วย
ส่วนผู้ป่วยที่หมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้น เดิมทีแล้วมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูง การที่เราเข้าไปช่วยกดหน้าอก หรือการใช้เครื่อง AED เพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยได้ ซึ่งทุกครั้งที่เข้าไปช่วย เราไม่สามารถตอบได้ว่าผู้ป่วยจะฟื้นหรือไม่ แต่การเข้าไปช่วยให้เร็วอย่างทันท่วงที มีโอกาสทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตมากขึ้น และสมองกลับมาเป็นปกติมากขึ้น เพราะสมองคนเราขาดเลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เกินถึง 10 นาที เกินกว่านั้นจะเสี่ยงต่อภาวะสมองตายอย่างถาวร ถึงแม้จะฟื้นกลับมาก็กลายเป็นคนพิการ ดังนั้นในผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ในการช่วยชีวิตเบื้องต้นรวมถึงเรื่องการใช้เครื่อง AED ก็ขอให้ทุกคนรีบเข้าไปช่วยอย่ารีรอในการเข้าช่วยผู้ป่วย
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลตำรวจ มีศูนย์การสอนเรื่องกู้ชีพตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงขั้น advance ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราได้มีการสอนไปกว่า 1,500 คน หากเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเราสอนทั้งหมด 20 รอบ และมีการออกหน่วยเพื่อดูแลประชาชนอีกประมาณกว่า 8 รอบ เรามีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหุ่นผู้ใหญ่ หรือหุ่นเด็ก รวมไปถึงหุ่นทารก มีการสอนการใช้เครื่อง AED สอนการดูแลผู้ป่วยระหว่างที่รอทีมช่วยเหลือมาถึง สอนอย่างครบวงจรตามมาตรฐาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น