ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิด ๒ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ชาวไทยเชื้อสายจีนรวมพลังถวายความภักดี

ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิด ๒ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ฯ ชาวไทยเชื้อสายจีนรวมพลังถวายความภักดี

ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิด ๒ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ชาวไทยเชื้อสายจีนรวมพลังถวายความภักดี – Top News รายงาน

 

ในหลวง-พระราชินี

เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๗.๑๒ น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี

 

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล หลังจากนั้นทอดพระเนตรการขับร้องเพลงสดุดีทศมราชา และการแสดงชุดเบญจกตัญญุตาบารมีแห่งมังกรสยาม พร้อมทั้งขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะผู้สนับสนุน ตามลำดับ

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่อซุ้มประตู “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” และ”วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เมื่อเสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรกทั้งนี้ซุ้มประตูทั้ง ๒ ซุ้มพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อว่า “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” อันเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุอย่างยั่งยืนถึง ๗๒ พรรษา ส่วนซุ้มประตูที่แยกหมอมี พระราชทานชื่อ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” มีความหมายว่า การเทิดทูนจากพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว

ในวาระเฉลิมพระชม ๗๒ พรรษา และเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานทรัพย์เป็นทุนประเดิมในการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ฯ เป็นจำนวนเงิน ๑๐ ล้านบาท ซุ้มประตู “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา”ถือเป็นหัวมังกรตั้งอยู่บริเวณสะพานดำรงสถิต มีช่วงกว้างของเสา ๑๖ เมตร ความสูง ๒๓ เมตร และซุ้มประตู “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” เป็นหางมังกรตั้งอยู่บริเวณแยกหมอมี ช่วงกว้างของเสา ๑๔ เมตร ความสูง ๒๓ เมตร การออกแบบ ซุ้มประตูทั้ง ๒ แห่ง เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนภาคเหนือ หรือแบบของกรุงปักกิ่งเป็นหลัก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เนื่องจากเป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นรูปแบบเฉพาะไม่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยแนวคิดโบราณของประเทศจีนซุ้มประตูจะอยู่ในกึ่งกลางของถนนแต่ละสาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการเข้าสู่บริเวณสำคัญนั้นๆ ลักษณะตัวอาคาร เป็นซุ้มประตูจีนแบบ “ไผฟาง” มีช่องทางเข้าช่องเดียว ๒ เสา ด้านบนมีหลังคา ๓ หลัง

ลักษณะของซุ้มประตูเป็นเสาคู่ ประดับด้วยลวดลายมังกร ซึ่งมังกร ๕ เล็บของจีนสื่อถึงองค์ฮ่องเต้ หรือองค์พระมหากษัตริย์ ซุ้มประตูสร้างด้วยโครงสร้างเหล็กกล้า ภายในเป็นเหล็กทั้งหมด  ภายนอกประดับตกแต่งใช้คอนกรีตเสริมใยแก้ว ซึ่งเป็นคอนกรีตที่มีน้ำหนักเบา ในขณะที่ยังคงความสวยงามและรูปแบบศิลปะถูกต้องตามต้นแบบสถาปัตยกรรมจีน

ส่วนสีซุ้มประตูเป็นสีแดงที่ใช้สำหรับอาคารสำคัญต่างๆ โดยหลังคาของซุ้มประตูทั้ง ๒ แห่ง เป็นสีเหลือง อันเป็นสีประจำพระองค์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ของจีนโบราณ  ด้านบนสุดยอดของหลังคาประดิษฐ์ตราสัญลักษณ์มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ โดยสองข้างของตราสัญลักษณ์เป็นรูปปั้นมังกรคู่เทิดทูนตราสัญลักษณ์สื่อถึงการแสดงความจงรักภักดี ร่วมใจของพสกนิกรไทยจีนและคนไทยเชื้อสายจีนทั้งหมด มีการเขียนลวดลายโดยใช้ช่างจากประเทศจีน

ที่ฐานซุ้มประตูทั้ง ๒ แห่ง จะมีฐานที่เป็น กล่องหินแกะสลักจากประเทศจีน ๔ คู่ มีช้างแบบไทย ๒ คู่ หมายถึง ประเทศไทย และสิงโตแบบจีนโบราณ ๒ คู่ หมายถึง ประเทศจีน และรูปกลอง ๔ คู่ แกะสลักจากหินพิเศษเรียกว่าหินอ่อนหยกขาวจีน (หินฮั่นไป๋ยู่) ออกแบบและแกะสลักโดยศิลปินระดับชาติของอำเภอฉวีหยาง มณฑลเหอเป่ย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งกำเนิดประติมากรรมแกะสลักของประเทศจีน

โดยได้ใช้เวลาสี่เดือนในการแกะสลักประติมากรรมรูปช้างได้แกะสลักตามรูปแบบช้างพาหนะที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงประทับในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นช้างทรงเครื่อง ตัวหนังสือที่แกะสลักบนผ้าคลุมหลังช้างทั้งสี่ตัวนั้น เป็นคำว่า จี๋ (สิริ) เสียง (มงคล) หรู (สม) ยี่ (ความปรารถนา) ตามลำดับประติมากรรมรูปสิงโตนั้น แกะสลักตามรูปแบบสิงโตที่จัดวางอยู่ทั้งสองฝั่งหน้าประตูพระที่นั่งไท่เหอ ซึ่งเป็นอาคารที่มียศศักดิ์สูงที่สุดในพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง สิงโตแต่ละคู่มีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจบารมีที่น่าเกรงขาม และบุญวาสนาที่สืบทอดกันอย่างไม่ขาดสายประติมากรรมรูปกลองนั้น ได้แกะสลักลวดลายเมฆมงคล

ทั้งนี้ ตามความเชื่อและประเพณีของชาวจีนหมายถึงความปรองดองสมานฉันท์ ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญมั่นคงของบ้านเมืองและความสงบสุขของประชาชน ตรงฐานเสาใช้หินแกรนิตสีแดงจากประเทศจีน โดยกรมศิลปากรช่วยออกแบบลวดลายไทยเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงาย นำมาหุ้มฐานเสา เพื่อความเป็นสิริมงคลยืนยงยาวนาน การจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ นี้ เกิดจากการรวมพลังความสามัคคี ความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทิตาของปวงพสกนิกร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗

 

 

เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา ซึ่งซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นสถาปัตยกรรมที่รังสรรค์โดยการผสมผสานทางศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงของอารยธรรมไทย-จีน และในปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นโอกาสครบ ๕๐ ปีแห่งสัมพันธภาพระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ร่วมเทิดพระเกียรติด้วยการมอบประติมากรรมมงคล ช้าง, สิงห์ และกลอง แกะสลักจากหินอ่อนหยกขาว “ฮั่นไป๋ยู่” มาประดิษฐานบนฐานปัทม์อันเป็นศิลปกรรมไทยซึ่งออกแบบโดยกรมศิลปากรสะท้อนความมั่นคง-ยั่งยืนแห่งสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อันจะนำมาสู่การเป็นหมุดหมายแห่งใหม่ที่สำคัญของประเทศในด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังวัดมังกรกมลาวาสพระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาส นำบรรพชิตจีน ๗๓ รูป สวดถวายพระพร และทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย และทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึกของวัดมังกรกมลาวาส เสร็จแล้วประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งไปยังซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” โดยมีนายหาน จื้อ เฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, ศ.ดร.หวาง ฮวัน ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นางจรรย์สมร วัธนเวคิน ที่ปรึกษาโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิม พระเกียรติ ๗๒ พรรษา นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และสมาคมจีนเก้าภาษา นายกิตติ อิทธิภากร ประธานสหสมาคมตระกูลแซ่แห่งประเทศไทย และ องค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งประเทศ เฝ้าฯ รับเสด็จ

การนี้ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงผู้มีอุปการคุณ จำนวน ๒ ชุดๆ ที่บริเวณหน้าซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” ตลอดทั้งสองเส้นทางถนนเจริญกรุงตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” ไปจนถึงซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” มีประชาชนชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง และนักท่องเที่ยวนานาชาติ เฝ้าฯ รอรับเสด็จ อย่างเนืองแน่น พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นไทย-จีน ใช่อื่นไกลเป็นพี่น้องกัน

นอกจากนี้ ประชาชนต่างพร้อมใจกัน สวมใส่เสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนมีการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์มาถือ บ้างก็โบกธงไตรรงค์ ธงพระปรมาภิไธยย่อ วปร. และ ธงพระนามาภิไธยย่อ สท. อย่างพร้อมเพรียง ล้วนต่างรู้สึกตื้นตันใจ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงประกอบพิธีเปิดแพรคลุมป้ายซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ในวันนี้นับเป็นความปลื้มปีติ โสมนัสยิ่ง แก่ปวงพสกนิกร ที่ได้มีโอกาสเฝ้าชมพระบารมีโดยใกล้ชิด พร้อมทั้งชื่นชมสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามด้วยอารยธรรม

          

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ยุพา" มอบนโยบาย 7 แนวทาง ขับเคลื่อนองค์กร มุ่งสู่เป้าหมายตามพันธกิจ-วิสัยทัศน์
"ตะวันฉาย" กราบสังขารหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม หลังป้องกันแชมป์โลกสำเร็จ "หลวงพี่น้ำฝน" ให้ของดีไว้ติดตัวในโลกมีเพียง 3 ชิ้น
ปธน. สีจิ้นผิงมั่นใจเศรษฐกิจจีนแข็งแกร่งในปีมะเส็ง
"ศุภมาส" เดินหน้า ชู อว. ยกระดับอาหารพื้นถิ่น-อาหารฟังก์ชั่น สู่นวัตกรรมอาหารปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการฉายรังสี
"พิชัย" ย้ำพร้อมส่งรายชื่อ "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ" คนใหม่ 7 ก.พ.นี้
ด่วน! DSI เรียก “เต้” พยานคดี “แตงโม” แกะรอยกล้อง-คราบเลือดวัดค้างคาว
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์“ ย้ำพร้อมขึ้นตรวจสอบปมชั้น 14 ร่วมกับป.ป.ช. แนะเชิญญาติ 10 คนเข้าเยี่ยม ”ทักษิณ“ ให้ปากคำด้วย
"ปลัดพลังงาน" ยังไม่ฟันธง ปีนี้เห็นค่าไฟ 3.70 บาทต่อหน่วย ตั้งทีมศึกษาแนวทางแล้ว คาด 2 เดือนรู้ผล
"ทบ." ยกระดับการแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่น ระดมหน่วยทหารจัดชุดดับไฟป่า พร้อมรับมือกับสถานการณ์
"กอ.รมน.ภาค 4 สน." แจงยิบเหตุวิสามัญ "4 คนร้าย" หลังเปิดฉากยิงสู้-เตรียมปาระเบิดไปป์บอมใส่ จนท.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น