สลดรับตรุษจีน ไฟไหม้ร้านขายของชำ วอดทั้งหลัง 3 พ่อ-แม่-ลูก ดับสลด กอดร่างกันสิ้นใจ

สลดรับตรุษจีน ไฟไหม้ร้านค้าขายของชำในหมู่บ้าน วอดทั้งหลัง พบศพ พ่อ-แม่ และลูกชายวัยขวบเศษ กอดกันร่างไหม้เกรียม เพื่อนบ้านเผยได้ยินเสียงดังระเบิดหลายครั้งก่อนไฟลุก แต่ไฟไหม้รวดเร็ว ช่วยไม่ทัน

สลดรับตรุษจีน ไฟไหม้ร้านขายของชำ วอดทั้งหลัง 3 พ่อ-แม่-ลูก ดับสลด กอดร่างกันสิ้นใจ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

28 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.กิตติกาญจน์ กรมธนเศรษฐ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้ง ว่ามีเหตุไฟไหม้ร้านค้าในหมู่บ้าน จึงประสานรถดับเพลิงในพื้นที่และกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.กระสัง เข้าตรวจสอบ

 

 

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณใกล้กับศากลางหมู่บ้านบ้านสูงเนิน พบเพลิงกำลังลุกไหม้ร้านค้าเป็นบ้านชั้นเดียว เลขที่ 91 หมู่ 1 ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าขายของเบ็ดเตล็ด รถดับเพลิงพยายามฉีดน้ำเข้าไปเพื่อระงับเหตุ แต่ไฟไหม้ลุกไหม้เกือบทั้งอาคารแล้ว ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

 

 

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ตัวบ้านและสินค้าภายในร้านเสียหายทั้งหมด ภายในห้องนอนพบร่าง นายจำรอง จุทาศักดิ์ อายุ 44 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ น.ส.กิตติมา ชอบรู้ อายุ 45 ปี ชาว จ.สุรินทร์ สองสามีภรรยา และ ด.ช.กิตติศักดิ์ ชอบรู้ อายุ 1 ขวบ 8 เดือน ลูกชายเสียชีวิตอยู่ในห้องในลักษณะนอนกอดกันกลมสภาพศพไหม้เกรียม

เมื่อสอบถาม นายเฉลียว คัชมา อายุ 75 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามกันกับร้านค้า เล่าว่า เจ้าของร้านเป็นคนพื้นที่ใกล้เคียงติดจังหวัดสุรินทร์ มาเปิดร้านที่นี่ได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ขายสินค้าทุกอย่าง ช่วงเกิดเหตุตนเองยังไม่ได้นอน เห็นมีควันไฟลุกขึ้นบริเวณตู้แชร์ขนาดใหญ่ภายในร้าน ไม่นานก็เกิดไฟลุกท่วมแล้วมีเสียงระเบิดหลายครั้ง คาดว่าเป็นถังแก๊ส จึงตะโกนให้ชาวบ้านออกมาช่วยเหลือแต่ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้จึงมารู้ว่า 3 พ่อแม่ลูกเสียชีวิตทั้งหมด

 

 

ด้านนายสุเทพ แก้วรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสูงเนิน หมู่ 1 เล่าว่า หลังรับแจ้งจากชาวบ้านได้ประสานรถดับเพลิงทันที แต่เมื่อรถดับเพลิงมาถึงไฟได้ไหม้ร้านค้าไปครึ่งหลังแล้ว พยายามตามหาเจ้าของบ้านแต่ไม่พบ จึงคาดว่าน่าจะอยู่ภายในบ้าน สุดท้ายก็เป็นจริง สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“วราวุธ” ส่งทีม ศรส. พม.ร้อยเอ็ด เร่งช่วยปู่ย่า จัดสวัสดิการสังคมเลี้ยงดูหลานเล็ก 3 คน ที่ร้อยเอ็ด
มติคกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดช่องให้ขายในโรงแรม - สนามบินระหว่างประเทศ คงห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่
สภาสูงร้อนฉ่า "สว.สีน้ำเงิน" ซัดดีเอสไอโดนครอบงำ จวก "ทวี" จงใจแกล้งเลือกยัดผิดคดีฮั้ว
เช็กลิสต์ศาลขอหลักฐาน ผบ.ตร. “คดีแตงโม” เจาะโคลนในปอด-ฟันหักไม่หัก
แหก! “อลิส” อ้างจนท.เรียกไปรับมือถือคืน “บิ๊กDSI” ส่ายหัว-ยังตรวจไม่เสร็จ
“อนุทิน” พร้อมเคียงข้าง “นายกฯอิ๊งค์” สู้ศึกซักฟอก มั่นใจทำหน้าที่ถูกต้อง
แพทย์ทหารคนแรก รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ม.มหิดลดี จากผลงานทางการแพทย์ ที่นำมาใช้จนถึงปัจจุบัน
"ทรัมป์" ยาแรง สั่งตาย "ยูเครน" ไม่สำนึก ปากดีเถียงคำไม่ตกฟาก
"ฐานปูลู่ตู่"ยังเหนียว "ทหารพม่า"จับปืนแน่นสู้ตาย ไม่ให้"กะเหรี่ยง"ยึดค่าย
"รองโฆษกฯ" เผย ไทยติดอันดับ 5 ของโลก จุดหมายยอดนิยมเที่ยวแบบฉายเดี่ยว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น