สืบเนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ระงับการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ เป็นเวลา 90 วันหลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อทบทวนว่าความช่วยเหลือเหล่านั้น ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลใหม่หรือไม่ โดยนายมาร์โก รูบิโอ ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ รับคำสั่งไปดำเนินการทันที ส่งผลให้ความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของโลก ถูกแช่แข็งไว้แทบทั้งหมด มีข้อละเว้นแบบระบุชัดเจนแค่ความช่วยเหลืออาหารฉุกเฉิน และความช่วยเหลือทางทหาร ที่ให้แก่อียิปต์และอิสราเอลเท่านั้น
แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ อังคารที่ 28 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น รูบิโอ ประกาศผ่านเมมโมว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากอาหาร จะได้รับการละเว้นด้วยเช่นกันในระหว่างที่มีการทบทวนความช่วยเหลือ โดยนิยามความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (Humanitarian assistance ) หมายถึง ยาหลักรักษาชีวิต บริการทางการแพทย์ อาหาร ที่พักพิง และความช่วยเหลือค่ายังชีพ
แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แจ้งผ่าน X ว่า ขณะนี้ ความจำเป็นเร่งด่วนได้รับการตอบสนองแล้ว และชี้แจงว่า เป้าหมายของการระงับความช่วยเหลือ คือเพื่อกำจัดงบประมาณและโครงการที่น่ารังเกียจ ไม่สอดคล้องกับการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของประธานาธิบดีทรัมป์ อย่างความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพศสภาพ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า อาณัติที่ได้รับมาจากชาวอเมริกันนั้น ชัดเจน ว่าเราจะต้องเบนเข็มมาที่ผลประโยชน์แห่งชาติของชาวอเมริกัน
รูบิโอ ขยายข้อยกเว้นในคำสั่งระงับความช่วยเหลือ หลังจากที่องค์กรบรรเทาทุกข์และส.ส.เดโมแครต แสดงความวิตกว่า การทำเช่นนั้นจะส่งผลกระทบอย่างกว้างไกล
การเปลี่ยนแปลงคำสั่งล่าสุด จะเปิดทางสู่การให้ทุนสนับสนุนยารักษา ภายใต้โครงการบรรเทาปัญหาเอดส์ หรือ เป็บฟาร์ ( PEPFAR) ของรัฐบาลสหรัฐฯ / PEPFAR เป็นโครงการใหญ่ ถือกำเนิดในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 2546 มีส่วนอย่างมากในการช่วยรักษาชีวิตผู้คน 26 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ เอลิซาเบธ ฮอฟแมน ผู้อำนวยการฝ่ายอเมริกาเหนือของ ONE กลุ่มบรรเทาทุกข์ที่ โบโน นักร้องนำวงร็อก ไอริช ยูทู (U2) ร่วมก่อตั้ง ออกมาเตือนว่า ศัตรูของเรา อาจฉวยประโยชน์จากช่องว่างในความเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกา และส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ซึ่งจะบั่นทอนความไว้วางใจในสหรัฐฯ และทำลายชื่อเสียงของสหรัฐฯทั่วโลก ทางกลุ่มหวังว่า กระทรวงต่างประเทศจะขยายข้อละเว้น แต่เตือนว่าต่อให้ขยายการละเว้นแล้ว ขั้นตอนทางราชการ อาจจะยังมีผลกระทบต่อการแจกจ่ายงบประมาณในโครงการเป็ปฟาร์อยู่ดี