หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานเมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม โดยอ้างเจ้าหน้าที่ไม่ประสงค์ออกนามหลายคน ว่า เดนมาร์กหวังว่า การไม่แสดงออกถึงการเผชิญหน้าแบบเปิดเผย จะช่วยให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รู้สึกพอใจ และช่วยป้องกันสถานการณ์ไม่ตึงเครียดมากไปกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลในการร้องขอให้ทางนาโต และอียู หลีกเลี่ยงแสดงความเห็นเรื่องที่ทรัมป์ต้องการครอบครองเกาะกรีนแลนด์ ที่เริ่มจากปัดฝุ่นแนวคิดซื้อเกาะ เมื่อไม่ได้รับการตอบรับ ก็ไม่ปฏิเสธว่าจะใช้กำลังทหารเข้ายึดเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก
รายงานระบุว่า นาโตและอียูให้คำมั่นว่า จะไม่พูดถึงกรีนแลนด์ ตามคำร้องขอของรัฐบาลโคเปนเฮเกน เจ้าหน้าที่อาวุโสยุโรปคนหนึ่ง อธิบายว่า การอยู่เงียบ ๆ น่าจะเป็นเดิมพันปลอดภัยที่สุดในการรับมือกับทรัมป์ ขณะหวังว่าทรัมป์จะมีเรื่องอื่นมาดึงความสนใจไปจากเรื่องกรีนแลนด์
ไฟแนนเชียล ไทมส์ ชี้ว่า ไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วมสักฉบับเกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์ หลังจากนายกรัฐมนตรี เมตเต เฟรเดริกเซน ของเดนมาร์ก พบปะพูดคุยกับผู้นำนอร์เวย์ และสวีเดน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งที่เกาะกรีนแลนด์ เป็นหัวหนึ่งของการหารือ เช่นเดียวกันกับที่ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ อันโตนีโอ คอสตา ประธานสภายุโรป ที่เงียบอย่างผิดสังเกตในเรื่องเดียวกัน
ส่วน มาร์ก รุตเต เลขาธิการนาโต บอกสภายุโรป สัปดาห์ที่แล้วแบบกลาง ๆ ว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครปกครองหรือควบคุมกรีนแลนด์ แต่ควรเป็นการสร้างหลักประกันว่า อาร์กติกจะปลอดภัย และเน้นย้ำความสำคัญที่จะต้องเจรจากับประธานาธิบดีทรัมป์
สื่อสำนักเดียวกันรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับนายกฯเฟรเดริกเซน ก่อนหน้านี้ ออกมาแย่มาก ทรัมป์แสดงเจตนาแน่วแน่ที่จะซื้อเกาะกรีนแลนด์ และขู่ใช้มาตรการภาษีกับรัฐบาลเดนมาร์ก เว้นแต่จะยินยอมแต่โดยดี
ขณะเดียวกัน สื่อในเดนมาร์กและกรีนแลนด์ เผยแพร่ผลสำรวจล่าสุด พบว่า ประชาชนบนเกาะกรีนแลนด์ 85% ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ผลสำรวจ ซึ่งได้จากการสัมภาษณ์ออนไลน์ ช่วงวันที่ 22 ถึง 27 มกราคม โดยสุ่มพลเมืองอายุ 18 ปีขึ้นไปจากกลุ่มต่าง ๆ สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรี มูเต เอเกเด ของกรีนแลนด์ ยืนยันซ้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นชาวอเมริกัน ส่วนตัวเขาเองต้องการผลักดันให้กรีนแลนด์ เป็นเอกราชจากเดนมาร์ก
ผู้นำหญิงของเดนมาร์ก ตระเวนเยือนเมืองหลวงยุโรป 3 แห่งเมื่อวานนี้ เพื่อขอความสนับสนุน หยุดยั้งประธานาธิบดีทรัมป์ ยึดเกาะกรีนแลนด์ด้วยกำลัง หรือขู่เข็ญทางเศรษฐกิจ โดยเธอได้พบปะกับนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนี ที่กรุงเบอร์ลิน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ในกรุงปารีส และ มาร์ก รุตเต เลขาธิการนาโต ในกรุงบรัสเซลส์ ในวันเดียว แม้ว่าผู้นำทั้งหมดนี้กล่าวว่าได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น ยูเครน และการก่อเหตุวินาศกรรมของรัสเซียในทะเลบอลติก แต่การเดินทางแบบเร่งรีบของนายกรัฐมนตรีเฟรเดริกเซน เผยให้เห็นถึงความวิตกกังวลที่เดนมาร์กรู้สึกจากคำขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์