นายซัลวาน โมมิกา ผู้ลี้ภัยชาวอิรัก วัย 38 ปี ที่จุดชนวนโกรธแค้นในโลกมุสลิม จากการเผาคัมภีร์อัลกุรอานประท้วงในสวีเดนหลายครั้งเมื่อปี 2566 ถูกยิงเสียชีวิตในห้องพักที่อาร์ตเมนต์ใกล้กรุงสต็อกโฮล์ม เมื่อกลางดึกวันพุธที่ 29 มกราคม สื่อท้องถิ่นหลายสำนักรายงานว่า นายโมมิกาถูกยิงขณะกำลังไลฟ์บนติ๊กตอกไม่กี่ชั่วโมงก่อนศาลนัดตัดสินคดีในวันรุ่งขึ้น
โมมิกา เดินทางจากอิรักไปอยู่สวีเดนในปี 2561 เขาบอก CNN ว่า ทำการประท้วงเพราะเชื่อว่าคัมภีร์อัลกุรอานควรเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิทธิสตรี
เดิม ในวันที่ 30 มกราคม ศาลสวีเดนนัดพิพากษาคดีที่ผู้ตาย ถูกแจ้งข้อหาร่วมกับชายอิรักอีกคนหนึ่ง ว่า ยั่วยุให้เกิดการต่อต้านทางเชื้อชาติ 4 ครั้งในปี 2566 โดยการที่ทั้งสองกระทำการลบหลู่คัมภีร์ และแสดงความเห็นดูหมิ่นเหยียดหยามชาวมุสลิม โดยมีครั้งหนึ่ง เผาคัมภีร์ที่หน้ามัสยิดในกรุงสต็อกโฮล์ม แต่หลังจากจำเลย 1 ใน 2 คนเสียชีวิต ศาลตัดสินใจเลื่อนนัดตัดสินเป็น 3 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรี อุล์ฟ คริสเตอร์สัน ของสวีเดน กล่าวว่า หน่วยความมั่นคงสวีเดนได้เข้าไปร่วมสอบสวนคดีนี้ด้วย เพราะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง
ความสัมพันธ์ระหว่างสวีเดนกับประเทศในตะวันออกกลาง เขม็งเกลียวจากการประท้วงของชายอิรักสองคนนี้ ผู้ประท้วงในอิรักบุกสถานทูตสวีเดนในกรุงแบกแดด 2 ครั้ง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 และถึงขั้นจุดไฟเผาภายในสถานทูต ระหว่างประท้วงครั้งที่สอง เดือนต่อมา หน่วยข่าวกรองสวีเดนตัดสินใจสั่งยกระดับเตือนภัยคุกคามขึ้นเป็นระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ
รัฐบาลสวีเดนประณามการประท้วงของชายอิรักทั้งสองคน แต่ก็ชี้ว่า รัฐธรรมนูญสวีเดนและกฎหมายลูก คุ้มครองเสรีภาพแสดงความเห็น แต่ก็ให้คำมั่นว่าจะหาทางยกเลิกการประท้วงในลักษณะนี้
ในเดือนตุลาคม 2566 ศาลสวีเดน มีคำตัดสินให้ชายคนหนึ่งมีความผิด ฐานยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติด้วยการเผาคัมภีร์อัลกุรอานในปี 2563 นับเป็นครั้งแรกที่ศาลสวีเดนพยายามเอาผิดการดูหมิ่นคัมภีร์ศาสนาอิสลาม
อัยการสวีเดนระบุก่อนหน้านี้ว่า ตามกฎหมายสวีเดน การเผาคัมภีร์อัลกุรอาน ถือเป็นการวิจารณ์หนังสือและศาสนา ซึ่งได้รับการคุ้มครองภายใต้เสรีภาพแสดงความคิดเห็น แต่จากเนื้อหาและแถลงการณ์ขณะประท้วง อาจพิจารณาได้ว่าเป็นการปลุกปั่นให้เกิดการต่อต้านทางเชื้อชาติ