ตร.ไซเบอร์รวบ “ทหารเกณฑ์” อ้างตัวเป็น ร้อยตำรวจโท วิดีโอคอลหลอกเหยื่อ เสียหายกว่า 800 ล้าน

ตร.ไซเบอร์รวบ "ทหารเกณฑ์" อ้างตัวเป็น ร้อยตำรวจโท วิดีโอคอลหลอกเหยื่อ เสียหายกว่า 800 ล้าน

Top news รายงาน พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมตำรวจ บก.สอท.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนาย อนุวัต ตันใจ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา กรณีอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร โทรศัพท์หลอกผู้เสียหายเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติด จึงให้โอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เป็นเหตุให้ผู้เสียหาย 151 คน รวมมูลค่ากว่า 800,000,000 บาท โดยเคสใหญ่ ๆ เป็นผู้ประกาศข่าวชื่อดัง

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถติดตามจับกุมนายอนุวัตได้ที่บริเวณค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ประเทศเพื่อนบ้านเมื่อปี 2566 ก่อนจะกลับมาประเทศไทย และถูกชักชวนให้กลับไปทำเว็บไซต์ไปทางออนไลน์อีกครั้ง แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม มีบทสคริปต์ที่ใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 50,000 บาท รวมทั้งได้ส่วนแบ่งอีกร้อยละ 3-5% ของยอดเงินที่หลอกได้ในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท

 

 

 

 

 

ก่อนจะกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้งเพื่อเกณฑ์ทหาร และถูกจับกุมและที่สุด สำหรับนายอนุวัต จะอ้างตัวเป็นร้อยตำรวจโท ธีระ รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองมุกดาหาร ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาจะรับหน้าที่เป็นสายที่ 1 แต่พอเริ่มมีความชำนาญก็ขยับขึ้นไปเป็นสายที่ 2

สำหรับสายที่ 1 จะทำหน้าที่โทรศัพท์ไปหลอกผู้เสียหายก่อน ชวนผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วโอนสายไปหา สายที่ 2 ให้ปลอบใจ คลายความกังวล ซึ่งจะแต่งตัวเป็นตำรวจ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ก่อนจะส่งไปยังสายที่ 3 เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงิน

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ อยู่ในแก๊ง “พูลิ กาสิโน” ที่จะไม่กล้าหลอกระวังผู้จะหายหลากหลายรูปแบบ ทั้งหลอกให้หลงรัก หลอกให้กลัว หลอกให้ร่วมลงทุน หลอกไปทำงาน หลอกให้กดลิงด์เพื่อดูดเงิน โดยฐานทัพหลักจะอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยจากการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ตำรวจสอบสวนกลางต้องการตัว

 

 

 

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฟอกเงิน, อั้งยี่ซ่องสุ่มโจร, มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“รองโฆษกรัฐบาล” ยืนยันค่าไฟไม่ได้เพิ่ม แต่ลดลงเหลือ 3.99 บ.ต่อหน่วย
โค้งสุดท้าย "พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เคาะประตูบ้าน ชาวเมืองคอน ขอเสียงหนุน "ไสว" เป็นสส.เขต 8
ชาวเมืองน่าน เข้าพบ "นิพนธ์" อดีตรมช.มหาดไทย ผลักดันพิสูจน์สิทธิ ออกโฉนดที่ดินสำเร็จ หลังรอคอยนานกว่า 30 ปี
"สันติสุข" ปลื้มปริ่ม "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ สุดประทับใจคนไทย
“ทักษิณ” ลั่นไม่สั่งใครเบรค “กัน จอมพลัง” ยุ่งคดีพีช ฟาด "เต้ มงคลกิตติ์" หลังปูดข่าว
"เจ้าอาวาส" สุดทนขึ้นป้าย “ไม่มีเงินให้ขโมยแล้ว” หลังคนร้ายงัดตู้บริจาคหลายครั้ง
“ทักษิณ” กลับเชียงใหม่อีกครััง เปิดให้รดน้ำดำหัว ขอพรในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนช่วย “อัศนี” หาเสียงพรุ่งนี้
“นายกฯ” เตรียมลุยประชุม ครม.สัญจร หลังออกจาก รพ.แล้ว จ.นครพนม 28-29 เม.ย.นี้
"ดีอี" ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบ “โจรออนไลน์”
"กนก" โพสต์แฟนข่าว "ท็อปนิวส์" เต็มอิ่ม สนุกสุดทัวร์ย้อนประวัติศาสตร์ "ลั่วหยาง-ซีอาน"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น