“อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” ย้ำมือถือ “แตงโม” ถึงไทยคืนนี้ หลัง”หมอธวัชชัย” บินไปรับกับมือที่บังแจ็ค ลั่นมีหลักฐาน หลายคลิปสำคัญ – Top News รายงาน
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และสื่อมวลชนอาวุโส พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าคดีแตงโมตกเรือ ของนางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่ตกเรือสปีดโบ๊ทเมื่อปี 2565 ซึ่งต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งเรื่องสืบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม
โดย นายปานเทพ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมีเรื่องแจ้ง 2 เรื่อง คือ เรื่องที่1 คือ ความคืบหน้าโทรศัพท์ของแตงโม สืบเนื่องเนื่องมาจากแม่ของแตงโม เป็นคนที่ส่งมอบโทรศัพท์นี้ด้วยตัวเอง เป็นเหตุให้บังแจ็ค พยายามกู้ไฟล์ที่ถูกลบไปหลายไฟล์ ทั้งรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่แม่ของแตงโมยินยอมเอง ไม่ได้เกิดจากที่พวกตนไปเกี่ยวข้องด้วย เป็นความยินยอมของแม่แตงโมกับบังแจ็ค และเรียนให้ทราบว่าพยานหลักฐานนี้ก็ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะว่าเรื่องดังกล่าวทางตำรวจได้เคยนำโทรศัพท์ไปตรวจสอบแล้วเกือบ 70 วัน และมีการส่งมอบคืน แล้วพบว่าข้อมูลในโทรศัพท์อาจจะมีปัญหาในการถูกลบ จึงเกิดกระบวนการที่ 2 ที่มีการส่งมอบโทรศัพท์เครื่องนี้ไปให้บังแจ็ค
จนกระทั่งพวกตนมีโอกาสประสานกับบังแจ็คและพบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประเด็น โดยเฉพาะการพิสูจน์ทราบว่าข้อมูลเหล่านั้น มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ตนได้พิสูจน์จากพิกัดของโทรศัพท์ เทียบกับ GPS ของเรือ แล้วพบความจริงว่าสอดรับและลื่นไหลในเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นพิรุธอยู่หลายประเด็น และพบว่าบังแจ็คมีความจริงใจ ที่จะให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือ ข้อมูลใดที่เขากู้ขึ้นมาเขาก็จะบอกว่าเขากู้ขึ้นมา ในกรณีที่ไฟล์ในอินเตอร์เน็ต สิ่งใดที่ไม่ได้เกิดจากบังแจ็คเขาก็ชี้แจง
ในขณะเดียวกันสิ่งที่เขาเห็นว่าไม่ได้เกิดจากไฟล์ที่เขากู้มา เป็นไฟล์ต้นฉบับจากในโทรศัพท์ของแตงโม เขาก็แจ้งให้ทราบเช่นเดียวกัน บางไฟล์เขาก็บอกให้ระมัดระวัง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้มีการกลั่นกรองโดย คุณหมอธวัชชัย กาญจนรินทร์ รวมถึงบังแจ็กเห็นว่าพวกตนมีความจริงใจ ในการไขคดีนี้ให้ปรากฏ ก่อนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะมารับหน้าที่ต่อ
สิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดที่สุดก็คือเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตัดสินใจว่าต้องการโทรศัพท์เครื่องนี้จากบังแจ็ค ทางบังแจ็คก็พร้อมที่จะส่งมอบให้ หมอธวัชชัยก็เลยเดินทางด้วยตัวเอง ด้วยงบของตัวเอง และไม่ได้แตะโทรศัพท์อีกเลย โดยเฉพาะคลิปวิดีโอสองคลิปหลัง เป็นคลิปที่บังแจ็คได้โชว์ขึ้นในไลฟ์สด อยู่ในมือถือของคุณแตงโมจริง และเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เลข เวลาที่ขึ้น 22.19 น.กับ 22.22 น. เป็นสองคลิปที่อยู่บนบก ปรากฏว่าตัวเลขขึ้นบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องจริง ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่รัฐว่าจะไปแสวงหาข้อเท็จจริงใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้อย่างไร
แต่สิ่งที่พวกตนได้รับจากประสบการณ์ในครั้งนี้เราพบว่ามีขบวนการ บั่นทอนดิสเครดิตข้อมูลนี้อย่างเต็มที่ เราพบว่าเป็นบัญชีที่มีการจัดตั้งเป็นอวตาร มีขบวนการกดไลค์ มีขบวนการจัดตั้งเพื่อทำให้เชื่อว่าข้อมูลที่บังแจ็คเปิด 2 คลิปวิดีโอนี้ มีผู้รับจ้างถ่ายทำและส่งให้บังแจ็ค และที่น่าสนใจไปกว่านั้น เมื่อตรวจค้นบัญชีเหล่านี้ย้อนหลัง พบว่าเป็นขบวนการเครือข่ายเดียวกับที่ปั่นกระแส จนท่วมโซเชียลมีเดียว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวัง ว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลัง เราจึงเห็นว่าทำไมข้อมูลของบังแจ็ค ถึงถูกลดทอนความน่าเชื่อถือใน 3 ปีที่ผ่านมา และเรากำลังสืบค้นเครือข่ายนี้อยู่ ไม่นานก็จะรู้ว่าเป็นเครือข่ายของใคร
ดังนั้นในคืนนี้ ขอให้สื่อมวลชนไปช่วยเป็นสักขีพยาน เพราะโทรศัพท์เครื่องนี้จะไม่แตะโดยนิ้วมือใดของคุณหมอธวัชชัยเลย โดยจะส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษโดยตรง ขอให้เชื่อมั่นว่าข้อมูลเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น โดยบังแจ็คได้ Backup ข้อมูลไว้ด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการตรวจทานหากมีกระบวนการลบข้อมูลจากกระบวนการใดก็ตาม เพราะฉะนั้นข้อมูลเหล่านี้จะไม่หาย และตนเชื่อว่าถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้โทรศัพท์เครื่องนี้ ประกอบกับโทรศัพท์ที่ย้อนหลัง และข้อมูลโทรศัพท์ทั้งหมด เชื่อว่าเราจะได้ความจริงประจักษ์ชัดแจ้งขึ้น ดังนั้นคืนนี้คุณหมอธวัชชัยจะมาถึงที่สนามบินประมาณเที่ยงคืน 00.20 น.
ตนต้องขอบคุณบังแจ็คและหมอธวัชชัย เพราะรอบนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการใหญ่มาก ที่ไม่ใช่เฉพาะข้าราชการ แต่อาจจะมีเครือข่ายนักการเมือง เกี่ยวข้องด้วย และผู้ทรงอิทธิพลอื่นๆ แต่เราก็จะดำเนินหน้าต่อไป และเรายังเชื่อมั่นในกรมสอบสวนคดีพิเศษชุดนี้