เปิดคำพิพากษา จำคุก 2 ปี “ดร.พิรงรอง” ทำผิด ม. 157 ฐานรายงานประชุมเท็จ ทำเอกชนเสียหาย
ข่าวที่น่าสนใจ
ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดีที่บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ ฟ้องนางสาวพิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีนางสาวพิรงรองออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่า โจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตอาจระงับเนื้อหารายการต่าง ๆ ที่บริษัทส่งไปออกอากาศ ส่อแสดงเจตนากลั่นแกล้งให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย
ล่าสุดแหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ถือเป็นกรณีตัวอย่างในการยกระดับมาตรฐานของคณะกรรมการกำกับดูแล หรือ Regulatorของประเทศไทย ในการใช้อำนาจทางกฎหมายอย่างระมัดระวัง หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำตัดสินเมื่อเช้าวันนี้ กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความสำคัญที่กรรมการต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบตามบทบาทกรรมการ ซึ่งครอบคลุมหน้าที่หลัก 4 ประการ ได้แก่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง ,ดำเนินการตามหลักความโปร่งใสและจริยธรรม ,ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ หลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน ,ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตใจ โดยคำตัดสินของศาลระบุว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ รวมถึงการทำเอกสารเท็จ ซึ่งถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ว่าด้วยการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เนื่องจาก นางสาวพิรงรอง คณะกรรมการ กสทช. และเป็นคณะอนุกรรมการด้านกิจการโทรทัศน์ ได้ดำเนินการให้ระบุชื่อ ทรู ไอดี แจ้งไปที่สำนักงาน กสทช.เพื่อให้สำนักงาน กสทช.ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการช่องทีวี 127 แห่ง โดยที่รู้อยู่แก่ใจว่า กสทช. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลธุรกิจ OTT และมีผู้ทักท้วงในที่ประชุมแล้ว จึงถือเป็นการจงใจกลั่นแกล้งให้ทรู ไอดี ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ในการบันทึกรายงานการประชุมครั้งแรกมิได้ให้ระบุชื่อทรู ไอดี ลงในหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการช่องทีวีแต่อย่างใด แต่ต่อมานางสาวพิรงรอง ได้ทักท้วงในที่ประชุมว่าทำไมถึงไม่ระบุชื่อ ทรู ไอดี ให้ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่ ในที่ประชุมทักท้วงเรื่องการระบุชื่อทรูไอดีแล้ว หลังจากหนังสือแจ้งถูกส่งออกไปแล้ว มีการแก้ไขรายงานการประชุมในภายหลัง ซึ่งไม่ได้เป็นมติของที่ประชุม ถือเป็นการทำรายงานการประชุมเท็จ และเป็นการกระทำโดยเจตนา ส่งผลให้ทรู ไอดี ได้รับความเสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น