The Times of Israel และรอยเตอร์สรายงานว่า นายอิสราเอล แคทส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลได้มีคำสั่งในวันนี้ (พฤหัสที่ 6 กพ.) ให้กองทัพอิสราเอลไปวางแผนเตรียมความพร้อมในการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาด้วยความสมัครใจ แคทส์ยังให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลว่า เขาเห็นชอบกับความคิดที่กล้าหาญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองว่าชาวปาเลสไตน์ควรมีอิสระที่จะย้ายถิ่นฐานออกจากกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกทำกัน
เมื่อถูกถามว่าใครจะเป็นผู้รับชาวปาเลสไตน์ไปดูแล แคทส์ตอบว่าประเทศที่ต่อต้านปฏิบัติการสู้รบและมักประณามอิสราเอลที่ทำสงครามกาซาอย่างสเปน, ไอร์แลนด์และนอร์เวย์นั่นแหละที่ควรต้องรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ไปดูแล แคนาดาเองก็มีโครงการรับผู้ลี้ภัยและก่อนหน้านี้ก็เคยเสนอรับผู้ลี้ภัยจากกาซา และว่าถ้าประเทศเหล่านี้ปฎิเสธไม่ยอมรับ ก็แสดงว่าเป็นพวกปากว่าตาขยิบ
ทั้งนี้แคทส์เผยแผนการอพยพว่าจะมีทั้งการใช้เส้นทางบกคือข้ามพรมแดนปกติ และการอพยพทางเรือและทางอากาศ ซึ่งส่วนนี้จะต้องมีการจัดเรือและเที่ยวบินพิเศษ
คำสั่งเตรียมความพร้อมอพยพชาวปาเลสไตน์มีขึ้นทั้งๆที่นานาชาติออกมาประสานเสียงประณามหลังทรัมป์ประกาศจะเข้ายึดกาซาเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาให้เป็นริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง รวมทั้งมีแผนจะย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ไปอยู่ที่อิยิปต์และจอร์แดน แต่หลังจากถูกประชาคมโลกคัดค้าน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็ออกมาแก้ต่างให้ทันทีว่าเป็นการโยกย้ายชั่วคราวเท่านั้น และไม่มีแผนที่จะใช้กำลังทหาร
ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลขานรับแนวคิดของทรัมป์ แนะเจ้าหน้าที่ไปศึกษาพิจารณาและผลักดันต่อ แม้ตัวเขาเองก็ไม่เชื่อว่าทรัมป์จะส่งทหารอเมริกันมาสู้รบกับฮามาส หรือจะยอมทุ่มงบก้อนใหญ่เข้ามาฟื้นฟูกาซา