“พิพัฒน์” ร่วมเสวนาเครือข่ายแรงงานนอกระบบ แนะเข้าประกันสังคม มาตรา 40 ยันพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตอาชีพอิสระ
ข่าวที่น่าสนใจ
10 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมรับฟังข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของแรงงานนอกระบบที่รวบรวมจากการประชุม “สมัชชาแรงงานนอกระบบ ประจำปี 2568” จัดโดย สมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมร่วมเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางและนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบของกระทรวงแรงงาน” โดยมี นางกชพร กลักทองคำ ประธานสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) และองค์กรร่วมจัด กล่าวรายงาน ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับกลุ่มแรงงานนอกระบบ เนื่องจากมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันได้เร่งผลักดันคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ โดยใช้นโยบาย “หนึ่งตำบล หนึ่งกลุ่มอาชีพอิสระ” เพื่อยกระดับสินค้าหรือบริการของกลุ่มอาชีพอิสระที่มีส่วนร่วมกับกระทรวงแรงงาน จากระดับธรรมดาต่อยอดไปสู่ระดับสูง (Premium) รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของสินค้าหรือบริการด้วยหลักการตลาด (4 P) เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการพัฒนาจะสามารถเป็นต้นแบบให้แก่กลุ่มอาชีพอิสระอื่น ๆ นำไปต่อยอดพัฒนาสินค้าหรือบริการของกลุ่มตนเอง มีการประกอบอาชีพที่เข้มแข็ง นำไปสู่การมีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยขณะนี้ อยู่ในกระบวนการจัดฝึกอบรมของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพในการประกอบอาชีพตามความต้องการของแต่ละกลุ่มอาชีพเพื่อประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนากฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน และลูกจ้างทำงานบ้าน โดยปรับปรุง แก้ไขร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน (ฉบับที่ ….) พ.ศ. …. เพื่อขยายการคุ้มครองแก่ผู้รับงานไปทำที่บ้านให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันและสอดคล้องกับอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 177 มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึง ได้ปรับปรุง แก้ไข กฎกระทรวง เพื่อขยายความคุ้มครองสิทธิให้ลูกจ้างที่ทำงานบ้านให้ได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้น โดยมีขอบเขตใช้บังคับกับนายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ให้ทำงานเกี่ยวกับงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย นับเป็นการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับงานบ้าน ลดระดับความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐได้มากขึ้น และขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างทำงานบ้านให้สามารถเข้าเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ได้ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมแล้ว และอยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประกอบการแก้ไขกฎหมายต่อไป
“กระทรวงแรงงานยังได้บูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และเครือข่ายแรงงานนอกระบบ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สสส.) ฯลฯ รวมถึงมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ หรือ Home Net Thailand ในการพัฒนาแรงงานนอกระบบ ซึ่งกระทรวงแรงงานยินดีสนับสนุน และให้ความร่วมมือกับผู้ประกอบอาชีพอิสระอย่างทั่วถึง”
นายพิพัฒน์ ยังได้กล่าวชวนแรงงานอิสระ ให้เข้าระบบประกันสังคม ใน มาตรา40 เป็นเวลา 1ปี เพื่อได้รับสิทธิต่างๆ เมื่อมีการกำหนดมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ออกมา
“เมื่อท่านเข้ามาในระบบประกันสังคม มาตรา 40 ท่านเสนอคณะกรรมการประกันสังคม ในมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นตัวแทนที่ มาจากผู้ประกันสังคม ย่อมจะเข้าใจ ความต้องการของผู้ใช้แรงงาน กระทรวงแรรงาน เราพร้อมที่จะเป็นผู้รับใช้ ให้กับเพื่อนผู้ใช้แรงงาน”นายพิพัฒน์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น