“รองผบช.น.” ยืนยัน ตำรวจวิสามัญคนร้าย แก๊งลักจยย. ทำเพื่อป้องกัน ไม่เกินกว่าเหตุ
ข่าวที่น่าสนใจ
11 ก.พ. 2568 ที่ห้องประชุม สน.บางเขน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบก.สส.บช.น.) พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบกน.2 พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ สน.คันนายาว ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดีฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว วิสามัญคนร้ายแก๊งลักรถ จยย. เสียชีวิต เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ในพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน
โดยพล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากมีการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สน.คันนายาว 4-5 ครั้ง ชุดสืบสวนสน.คันนายาวจึงทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบเบาะแสคนร้าย 2 คน ที่ได้ตระเวนก่อเหตุ ลักรถจักรยานยนต์ จากซอยคู้บอน 13 เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา แล้วนำมาจอดพักไว้ใต้ทางพิเศษฉลองรัช ที่เป้นจุดเกิดเหตุเพื่อเคลื่อนย้ายไปชำแหละและส่งขายต่อไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา คนร้ายทั้ง 2 ได้ก่อเหตุลัก รถจักรยานยนต์ ของกลาง ที่จอดอยู่ ในซอยนวลจันทร์ 52 พื้นที่ สน. โคกคราม ซึ่งแนวทางสืบสวนคาดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นแก๊งเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.คันนายาว และ พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสะกดรอยตาม ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว จึงมาดักซุ่มรอในที่จุดเกิดเหตุ เนื่องจากคาดว่าคนร้ายจะเอารถมาจอดพักไว้เพื่อรอเคลื่อนย้ายต่อไป
กระทั่งถึงเวลาเกิดเหตุ คนร้ายได้เข้ามาเอารถ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ที่ซุ่มรอดูพฤติการณ์จึงแสดงตัวเข้าจับกุมนายศุภัช อายุ 27 ปี แต่คนร้ายอีกคนได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด หันมาทางตำรวจ บังคับให้ปล่อยตัวนายศุภัช ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อจะขี่หลบหนี ตำรวจจึงใช้อาวุธปืนยิงออกไป 3 นัด กระสุนปืนเข้าที่ต้นขาซ้ายของนายศุภัช 1 นัด เข้าที่หมวกกันน็อคทะลุศีรษะ 1 นัด ส่วนอีก 1 นัดไม่โดน ทำให้นายศุภัชเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายที่เป็นผู้ขับขี่และชักอาวุธปืนจ่อใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับขี่รถหลบหนีไปได้ โดยลักาณะการแต่งกาย คนร้ายจะสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวสีดำ หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ ใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์แม็ก สีดำ ไม่ทราบป้ายทะเบียน เป้นยานพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนขณะนี้พบว่า ยังคงวนเวียนหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่นครบาล
สำหรับ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธวิธีและขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพจากวงจรปิดปรากฏให้เห็นแล้วว่าคนร้ายพยายามที่จะทำร้ายตำรวจก่อน ตำรวจจึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว ซึ่งเรื่องนี้ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ไปชี้แจงกับญาติคนร้ายที่เสียชีวิตแล้ว
คดีนี้ต้องแยกสำนวนเป็น 4 คดี สำนวนที่ 1 คือเรื่องของการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต, สำนวนที่ 2 คือเรื่องที่ตำรวจวิสามัญคนร้าย, สำนวนที่ 3 คือเรื่องป้องกันตัวของตำรวจ, และสำนวนที่ 4 คือเรื่องที่คนร้ายไปก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตาม ฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่พบเห็นรถจักรยานยนต์ในลักษณะตามภาพให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น