กาฬสินธุ์ พบคลัสเตอร์โควิดแก้วก๊งเหล้าขาว ตั้งวงร่ำสุราร้านของชำ ติดกระจาย 29 ราย

สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังพบคลัสเตอร์กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบคลัสเตอร์ใหม่กลับจากเที่ยวและพื้นที่เสี่ยงไม่กักตัว ตั้งวงร่ำสุราและก๊งเหล้าขาวแก้วเดียวกันร้านขายของชำกลางหมู่บ้าน ชุมชนเดียว 6 หมู่บ้านเบื้องต้นติดเชื้อแล้ว 29 ราย

วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานเอนกประสงค์ ข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านแกเปะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้นำชุมชน และ อสม. ได้ร่วมกันตั้งจุดคัดกรอง เพื่อทำการสวอป ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับชาวบ้านกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หลังเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา มีวัยรุ่นไปเที่ยวกลับมาแล้วตั้งวงดื่มสุรา และมีชาวบ้านกลับจากพื้นที่เสี่ยงไม่ยอมกักตัวมีการดื่มเหล้าขาวแก้ว หรือจอกเดียวกันที่ร้านขายของชำ ก่อนตรวจพบเชื้อโควิด-19 ภายหลัง ทำให้เชื้อได้แพร่กระจายเป็นคลัสเตอร์พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรวม 29 ราย ขณะที่บริเวณปากทางออกหมู่บ้าน 4 ทหารเสือ ได้ตั้งจุดคัดกรองการเดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง

นายสมพร ภารสำราญ ผู้ใหญ่บ้านแกเปะ หมู่ 5 ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีพบชาวบ้านแกเปะติดเชื้อโควิด-19 ประมาณวันที่ 20 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เริ่มจากวัยรุ่นในหมู่บ้านคนหนึ่งไปเที่ยวกับเพื่อนในตัวเมืองกาฬสินธุ์ มีการรวมกลุ่มกับเพื่อน และอาจจะมีการตั้งวงดื่มตามประสาวัยรุ่น ก่อนที่รายต่อมาจะเป็นคนในหมู่บ้านที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แต่ไม่กักตัว มีไทม์ไลน์ไปซื้อสินค้าที่ร้านของชำกลางหมู่บ้าน ซึ่งร้านขายของชำดังกล่าว มีการจำหน่ายสุรา ให้ลูกค้ามาซื้อในลักษณะของการขายเป็นก๊ง โดยการใช้แก้วหรือตามภาษาชาวบ้านเรียกจอกเดียวกันเวียนดื่มหลายคน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุการติดเชื้อโควิดและแพร่กระจายเป็นคลัสเตอร์ดังกล่าว ทั้งนี้ได้ประกาศขอความร่วมมือร้านค้าและร้านขายของชำในหมู่บ้านแกเปะทั้ง 6 ชุมชน งดการขายสุรา พร้อมเตือนชาวบ้าน ประชาชน งดการเดินทางเข้าออกในช่วงนี้ และหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้เข้ามารับการตรวจคัดกรองทุกคนด้วย

ด้านนายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์มากขึ้น สาเหตุจากการเดินทางไปในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูง สีแดงเข้มแล้ว พอเดินทางกลับก็ไม่ได้เข้าสู่ระบบการกักกันตัว และรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะเป็นการนำเชื้อมาด้วยโดยไม่รู้ตัว เกิดการติดต่อกับผู้สัมผัสใกล้ชิดและแพร่กระจายในชุมชน จึงเป็นสาเหตุพบคลัสเตอร์ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ดังกล่าว เช่น ที่ ต.ลำคลอง อ.เมือง และ ต.คลองขาม อ.ยางตลาด ทั้งนี้ปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 200 ราย ที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

นายแพทย์อภิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพบคลัสเตอร์ใหม่ใน ต.เชียงเครือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ เบื้องต้นมีผู้ป่วยยืนยันจำนวน 29 รายนั้น จากการสอบสวนโรค น่าเชื่อได้ว่าเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางท่องเที่ยว และชาวบ้านที่เดินทางจากกรุงเทพฯ พื้นที่เสี่ยงสูง ไม่เข้าสู่ระบบการกักกันตัว และรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ต่อมาได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ มีอาการไข้ไปตรวจพบเชื้อ ซึ่งได้มีการแพร่เชื้อไปในหมู่บ้านแล้ว โดยจากการติดตามไทม์ไลน์ที่ร้านขายของชำในหมู่บ้านและสอบสวนโรค ยังเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่และชาวบ้าน ที่มีการเดินทางและตั้งวงดื่มสุรา จึงเกิดการกระจายเชื้อ เบื้องต้นพบ 29 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 87 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธรณสุข อ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ รพ.สต.เชียงเครือ อสม. ได้ระดมกำลังกันสวอปชาวบ้าน และจะทำการตรวจคัดกรองเชิงรุก (ATK) ทั้งหมู่บ้านอีกด้วย

นายแพทย์อภิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นคลัสเตอร์กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ดังกล่าว จึงอยากขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่จะเดินทางไปธุระ ไปทำงาน หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัด รวมทั้งประชาชนจากต่างจังหวัด ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้เพิ่มความระมัดระวัง การเดินทางเข้าพื้นที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง เพื่อทำการคัดกรอง สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะสามารถระงับยั้งยั้งการได้รับเชื้อ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ 2 ประการ คือมาตรการ D-M-H-T-T ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการครอบจักรวาล และหากเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ต้องเข้าสู่ระบบการกักกันตัว ก็จะเป็นวิธีการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างได้ผลดีที่สุด ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ล่าสุด( 1 ต.ค.64) พบผู้ป่วยรายใหม่ 14 ราย มีผู้ป่วยสะสม 7,685 ราย หายป่วยแล้ว 7,396 ราย กำลังรักษา 235 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 54 ราย.

 

 

ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น