จอห์น เอสโปซีโต หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์ก หรือ FDNY แถลงว่า เมื่อเวลา 6.00 น. เช้าวันพุธที่ 12 มกราคม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ถนนแอนโธนี ย่านบรองซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด และเดินทางถึงที่เกิดเหตุ 4 นาทีหลังจากนั้น พบไฟไหม้รุนแรงอาคารสองหลัง ประเมินสถานการณ์แล้วจึงสั่งระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 40 คัน และหน่วยรับมือฉุกเฉินจำนวน 150 คน เข้ารับมือเหตุเพลิงไหม้รุนแรงระดับ 3 ซึ่ง วีโอเอไทย รายงานว่า หมายถึงเหตุอัคคีภัยในพื้นที่อาคารขนาดใหญ่หรือมีหลายชั้น
หลังจากควบคุมเพลิงได้ในเวลาต่อมา พบผู้เสียชีวิต 2 ราย รายหนึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ อีกหนึ่งราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
หัวหน้าสถานีดับเพลิง ระบุด้วยว่า โชคร้ายที่มีรถยนต์คันหนึ่ง จอดชิดกับหัวจ่ายน้ำสำหรับดับเพลิงที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ในเมืองสองครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน เราทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรจอดรถใกล้กับหัวดับเพลิง เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้งานดับเพลิงช้าลง การต่อสู้กับเปลวเพลิง ทุกนาทีมีค่า วีโอเอไทย รายงานว่า การจอดขวางหัวจ่ายน้ำสำหรับดับเพลิง มีโทษทางกฎหมายในหลายรัฐ รวมถึงนครนิวยอร์ก
FDNY แจ้งเพิ่มเติมว่า หน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินและสภากาชาดนิวยอร์ก ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างสอบสวน
ด้าน วัดอุษาพุฒยาราม นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊ก ว่า มีผู้เสียชีวิตสองราย ได้แก่ พระมหาดิเรก ชมพูนิด และนายพัด ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันชื่อและนามสกุลได้เนื่องจากข้อมูลถูกไฟไหม้ทั้งหมด ส่วนพระสงฆ์สามรูปและอาคันตุกะชาวอเมริกันหนึ่งคนปลอดภัย โดยในจำนวนนั้น มีพระหนึ่งรูปที่สำลักควันและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง
วัดอุษาพุฒยาราม ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2508 เป็นวัดไทยและศูนย์เผยแผ่ประเพณีและวัฒนธรรมไทยแห่งแรกของรัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 9