เปิดไทม์ไลน์ “ดีเอสไอ” บี้ถาม “กกต.” ปมสอบฮั้ว “เลือกสว.” คาใจคำตอบ ขัดแย้งข้อมูลเคยร่วมงานตั้งแต่ปี 67

เปิดไทม์ไลน์ "ดีเอสไอ" บี้ถาม "กกต." ปมสอบฮั้ว "เลือกสว." คาใจคำตอบ ขัดแย้งข้อมูลเคยร่วมงานตั้งแต่ปี 67

เปิดไทม์ไลน์ “ดีเอสไอ” บี้ถาม “กกต.” ปมสอบฮั้ว “เลือกสว.” คาใจคำตอบ ขัดแย้งข้อมูลเคยร่วมงานตั้งแต่ปี 67

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเปิดประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อพิจารณาจะรับคดีเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในเวลา 13.30 น.วันที่ 25 ก.พ. 68 ที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งการจะรับเป็นคดีพิเศษ บอร์ดคดีพิเศษต้องมีมติโดยใช้เสียง 2 ใน 3 หรือ 15 คน จากทั้ง 22 คน โดยบอร์ดคดีพิเศษ

ก่อนหน้านี้มี สว.บางกลุ่มตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจ และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ในฐานะองค์กรอิสระ ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ม.41 – 49 ซึ่งเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมออกมาโต้ว่า ดีเอสไอมีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งนี้อะไรคือสาเหตุที่ดีเอสไอมั่นใจว่ามีอำนาจในการทำคดีฮั้วเลือกสว. โดยเรื่องนี้มีที่มาที่ไป คือ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 68 กลุ่ม สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ได้ยื่นคำร้องของให้ดีเอสไอรับคดีฮั้วเลือกสว.เป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.ยุทธนา แพดำ อธิบดี ดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่อง และยืนยันว่า ดีเอสไปสอบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567และมีการออกเลขสอบสวนที่ 151 /2567 ซึ่งตอนนี้ได้ส่งหนังสือไปสอบถาม กกต.ว่าจะรับไปดำเนินการเอง หรือจะมอบหมายให้ ดีเอสไอ ดำเนินการ

สำหรับหนังสือที่ดีเอสไอสอบถามกกต. ได้ยื่นไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ.68 เป็นเอกสารลับ โดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอทำหนังสือแจ้ง กกต.เพื่อทราบและเพื่อพิจารณารวม 3 ประเด็นระบุว่า

 

1.ผลการสืบสวนทั้ง 3 คำร้อง พบว่ามีการกระทำความผิดทางอาญา โดยเข้าข่ายความผิดอาญาฐานอั้งยี่ – ความผิดฐานฟอกเงิน

2.ดีเอสไอต้องการจะรับสอบสวนในส่วนที่พบการกระทำความผิดทางอาญา

3.ขอให้กกต.ตอบกลับภายใน 10 ก.พ.68 ว่า ความผิดทางอาญา ที่กกต.จะดำเนินการ และความผิดทางอาญาใดที่จะให้ ดีเอสไอ ดำเนินการ

ต่อมาวันที่ 18 ก.พ.68 นายแสวง บุญมี เลขาฯกกต.ทำหนังสือตอบ ดีเอสไอว่า “เนื่องจากเรื่องดังกล่าว ไม่ปรากฎว่า ดีเอสไอ ได้รับไว้พิจารณาแล้วหรือไม่ จึงยังไม่ได้เสนอให้คณะกรรมการ กกต. พิจารณา โดยหนังสือดังกล่าวเหมือนการปฏิเสธ ดีเอสไอ ที่จะให้มาทำคดีจากข้อความที่ระบุว่า ไม่ปรากฎว่าดีเอสไอได้รับพิจารณาเรื่องดังกล่าวหรือไม่

จากหนังสือที่ กกต. ตอบกลับ ทำให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ต้องขอมติที่ประชุมคณะกรรมการดีเอสไอในวันที่ 25 ก.พ. 68 ให้รับไว้เป็นคดีพิเศษ โดยให้เหตุผลว่า พบการกระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม แบ่งหน้าที่กันทำ มีฝ่ายเทคโยโลยีในการเตรียมโปรแกรมคำนวณการลงคะแนน ออกเป็นโพยฮั้ว เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ต้องการ เตรียมบุคคลที่มาลงคะแบบที่เรียกว่า กลุ่มพลีชีพ หรือโหวตเตอร์

อย่างไรก็ตามการที่กกต.ส่งหนังสือปฏิเสธดีเอสไอ โดยระบุไม่พบ ว่าดีเอสไอได้พิจารณาเรื่องคดีฮั้วเลือก สว.นั้น ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากดีเอสไอมีข้อมูลยืนยันว่า กกต.รับรู้เรื่องดังกล่าวมาโดยตลอดแถมยังมีเอกสารที่ กกต.มอบหมายให้ดีเอสไอร่วมตรวจสอบดคีฮั้วเลือก สว. โดยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.67 นายแสวง บุญมี เลขาฯ กกต. ทำหนังสือแจ้งดีเอสไอ เพื่อทราบว่า ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคนของดีเอสไอเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.2567

จากนั้นในวันที่ 29 ส.ค.67 นายแสวง ทำหนังสือแจ้งดีเอสไอเพื่อทราบว่า กกต.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคนของ ดีเอสไอ เป็นคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและประสานการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนไต่สวนและการดำเนินคดีเกี่ยวกับ การเลือก สว.2567

ต่อมาวันที่ 25 ก.ย.67 พ.ต.ต.ยุทธนา ทำหนังสือแจ้ง กกต. เพื่อทราบว่า ได้รับ 3 คำร้องของ พล.ต.ต.อนุชา จารยะพันธุ์ เพื่อขอความเป็นธรรมเลือก สว.จังหวัดปทุมธานี โดยร้องเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 , คำร้องของนายภัทรพงศ์ ศุภอักษร ขอให้ตรวจสอบการเลือก สว. ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ร้องเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2567 และคำร้องของนายทินกร จิตต์ไพบูลย์ ขอให้ดีเอสไอตรวจสอบการเลือก สว. สาย ข กลุ่มที่ 1 เนื่องจากกระบวนการเลือกอาจมีกรณีความผิดต่อกฎหมาย ร้องเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2567

จากนั้นวันที่ 22 มค.68 นายแสวง ทำหนังสือขอให้ดีเอสไอแจ้งรายละเอียดของ 3 คำร้องรับไว้สืบสวนและความคืบหน้าของการสืบสวนภายใน วันที่ 24 ม.ค.68

สิ่งเหล่านี้คือหลักฐานที่ดีเอสไอนำมาตอกหน้า กกต. หลังจากมีการส่งหนังสือปฏิเสธดีเอสไอ ซึ่งจากนี้ต้องติดตามดูว่าบ่ายนี้คณะกรรมการคดีพิเศษจะมีมติให้ดีเอสไอรับคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ครม.” ไฟเขียว “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าได้
"ภูมิธรรม" เดินทางเข้าร่วมประชุมรมว.กลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ ณ รัฐปีนัง มาเลเซีย รับมือภัยคุกคามความมั่นคง
“ไตรศุลี” เลขา​ฯ มท.1 บุก​พิสูจน์ปม ​“ชาวอิสราเอล” ยึดปาย ยืนยันแค่เฟกนิวส์
“ครม.” ไฟเขียวแล้ว เลือกตั้งซ่อม สส.บึงกาฬ เขต 2 แทน “สุวรรณา กุมภิโร”
ลุยต่อเนื่อง! เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World เครือซีพี ทีม Fightหมอกควัน ลงพื้นที่อมก๋อย ร่วมอาสาดับไฟป่า ทำแนวกันไฟ ฝ่าวิกฤติฝุ่นควัน
สธ. เตือน "ไข้หวัดใหญ่" ป่วยแล้ว 1.3 แสนราย ตาย 12 ราย จับตาเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ย้ำวัคซีนใช้ได้
ทรัมป์เผยปูตินไฟเขียวยุโรปส่งกองกำลังสันติภาพไปยูเครน
"อาระกัน"รบเดือด บุกถล่ม"ฐานทัพเรือพม่า"ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐยะไข่
"ศาลสงขลา" สั่งจำคุก "พี่สาว-พี่เขย" รมช.สาธารณสุข คดีลอบขุดดินโบราณสถาน
"ผบช.ไซเบอร์" สั่งสอบ "คลิปครูสวมหน้ากาก" สุดวิปริต ถ่ายในพื้นที่โรงเรียน หลังคลิปว่อนโซเชียล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น