BBC และรอยเตอร์สรายงานว่าระหว่างการพบหารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 24 กพ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับผู้นำฝรั่งเศสว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียยอมรับแนวคิดที่ยุโรปจะส่งกองกำลังสันติภาพเข้าไปในยูเครน ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงรัสเซีย-ยูเครน โดยทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ตั้งคำถามนี้กับปูตินโดยเฉพาะ และปูตินก็ตอบโอเคและว่าเขาไม่มีปัญหาให้เรื่องนี้
ด้านมาครงได้ขานรับทันทีบอกว่าฝรั่งเศสพร้อมที่เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังสันติภาพซึ่งจะทำหน้าที่รับประกันความปลอดภัยให้กับยูเครน อย่างไรก็ตามมาครงย้ำว่ากองกำลังสันติภาพไม่ได้เข้าไปเพื่อสู้รบ แต่เพื่อรักษาความปลอดภัย เพื่อคุมกฎไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงสันติภาพเท่านั้น ทั้งนี้มาครงยันยันว่าข้อตกลงสันติภาพจะต้องทำควบคู่ไปกับมาตรการรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน และการทำข้อตกลงสันติภาพไม่ได้หมายความว่ายูเครนยอมแพ้รัสเซีย นอกจากนี้ยุโรปจะต้องมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการรับประกันความปลอดภัยดังกล่าว
ด้านทรัมป์ตอบกลับทันทีเช่นกันว่ายุโรปจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน จะปล่อยให้สหรัฐออกฝ่ายเดียวไม่ได้ ซึ่งมาครงก็ตอบรับว่ายุโรปจะแชร์ค่าใช้จ่ายกับสหรัฐในสัดส่วนที่ยุติธรรม
หลังการพูดคุยกับทรัมป์ มาครงเผยว่ายูเครนกับรัสเซียน่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่สัปดาห์นี้
มาครงเป็นผู้นำยุโรปคนแรกที่เยือนสหรัฐนับตั้งแต่ทรัมป์รับตำแหน่ง ขณะที่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ผู้นำอังกฤษก็จะมาพบทรัมป์ภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยสองผู้นำชาติยุโรปหวังที่จะเกลี้ยกล่อมทรัมป์ไม่ให้รีบบรรลุข้อตกลงหยุดยิงยูเครนกับปูติน และเพื่อกดดันทรัมป์ให้ยอมรับยุโรปเข้ามีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนเสียเปรียบ