ย้อนประวัติศาสตร์ นายกรัฐมนตรีไทย กว่า 93 ปี “อุ๊งอิ๊ง” นายกฯคนที่ 2 ถูกซักฟอกคนเดียว

ย้อนประวัติศาสตร์นายกรัฐมนตรีไทยกว่า 93 ปี “อุ๊งอิ๊ง” นายกรัฐมนตรีคนที่สองที่ถูกฝ่ายค้านเปิดซักฟอกเพียงคนเดียว ส่วนคนแรก “บรรหาร ศิลปะอาชา” นายกฯคนที่ 21 เผยเจอพิษซักฟอกถึงขั้นถูกบีบให้ลาออจนนำไปสู่การยุบสภา

ย้อนประวัติศาสตร์ นายกรัฐมนตรีไทย กว่า 93 ปี “อุ๊งอิ๊ง” นายกฯคนที่ 2 ถูกซักฟอกคนเดียว – Top News รายงาน

 

 

 

ทันทีที่พรรคประชาชนนำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยการอภิปรายครั้งนี้จะยื่นซักฟอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ทั้งนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นตลอด 93 ปี ที่ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตย รัฐสภาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมทั้งหมด 47 ครั้ง พบว่าเป็นการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบทั้งคณะ จำนวน 10 ครั้ง และแบบรายบุคคล จำนวน 38 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือการ เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติต่อรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อปี 2567

สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นอกจาก น.ส.แพทองธาร แล้วยังมีนายกรัฐมนตรีอีก 1 ท่าน คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยที่บริหารประเทศได้เพียง1 ปี 135 วัน ในช่วงปี 2538-2539

นายกรัฐมนตรีไทย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ในสมัยรัฐบาลของนายบรรหาร การบริหารประเทศรัฐบาลต้องประสบพบกับวิกฤตต่างๆ ทั้งความชอบธรรมของคณะรัฐมนตรี ปัญหาเศรษฐกิจ โดยจุดพลิกผันของรัฐบาลเกิดขึ้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์นำโดยนายชวน หลีกภัย แกนนำฝ่าค้าน ยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจ นายบรรหาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่กระทรวงมหาดไทยเพียงคนเดียว

การอภิปรายไม่ไว้วางใจเริ่มตั้งแต่วันที่ 18-20 กันยายน พ.ศ. 2539 โดยมีการกล่าวหาและตั้งข้อสงสัย 13 ประเด็น อาทิ การแปลงสัญชาติ (กล่าวหาว่านายบรรหาร เป็นคนจีนไม่ใช่คนไทย), การหนีภาษีขายที่ดินให้ธนาคารแห่งประเทศไทย, รับเงินสนับสนุนจากนายราเกซ สีกเสนา ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ, กรณีคัดลอกวิทยานิพนธ์ เปนต้น ซึ่งการอภืปรายในครั้งนี้ทำให้นายบรรหาร ถึงออกอาการเมาหมัดถึงขั้นเกือบหลั่งน้ำตา

ต่อมาวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2539 เป็นวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยก่อนการลงมติไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมรัฐบาลเรียกประชุมและมีมติให้นายบรรหาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ลาออกพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคความหวังใหม่ พรรคนำไทย และพรรคมวลชน จะไม่ยกมือไว้วางใจให้ แต่นายบรรหาร ต่อรองขอลาออกภายใน 7 วันแทน

 

 

จากผลของการต่อรองทำให้นายบรรหาร ได้รับเสียงไว้วางใจ 207 เสียง ต่อเสียงไม่ไว้วางใจ 180 เสียง โดยระหว่างนั้นมีข่าวการสรรหาตัวผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีทั้ง พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร ที่ปรึกษาพรรคชาติไทย และ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แต่พรรคร่วมรัฐบาล อันประกอบด้วย พรรคความหวังใหม่ พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย พรรคนำไทย และพรรคมวลชน สนับสนุน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตามปรากฏว่า นายบรรหาร ไม่ได้ลาออกตามที่กล่าวอ้าง แต่ใช้วีโต้กลับทางการเมืองใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2539 ทำให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่เพื่อหานายกรัฐมนตรีคนถัดไป และปลายปี 2539 พรรคความหวังใหม่ชนะการเลือกตั้ง พล.อ.ชวลิต จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากนายบรรหาร ตั้งแต่นั้นมา

สิ่งนี้คือสาเหตุที่นายบรรหาร ต้องผจญเส้นทางการเมืองที่ตกต่ำ โดยผลพวงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ซึ่งจากนี้ต้องจับตาดูว่า นายกฯแพทองธาร จะต้องเผชิญอะไรกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น….?

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ย้ำปัญหาคอลเซ็นเตอร์ต้องจบ "ไม่จบไม่เลิก" ลั่นติดตามเรื่องนี้อย่างหนัก
"บ้านเพื่อคนไทย" สานฝัน "กลุ่มเปราะบาง-คนรุ่นใหม่" อยากมีบ้าน
“ไอซ์ อภิษฎา” งานงอก! “อัจ” ลากร่วมวงคดี “แตงโม” ข้องใจโทรหา “ปอ”
อัยการสั่งฟ้อง ก๊วน 3 นิ้ว ชุมนุมป่วน พาดพิงเบื้องสูง รอบวัดพระแก้ว นัดสอบคำให้การ 30 เม.ย.นี้
"กทม." จับมือ "กรมเจ้าท่า" บุกตรวจเอาผิด "เรือหรู" ทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ล่าสุดพบไม่มีใบอนุญาตขายอาหาร
คลิปวินาที "อิสกันเดอร์" ตูมเดียว "โดรนยูเครน" ร่วงตุบ 14 ลำ ทหารเป็นปุ๋ยเกลื่อน
"บิ๊กต่าย" ยันส่งตัว 40 อุยกูร์  ตามหนังสือทางการจีน จนท.พร้อมรับรองความปลอดภัยเข้ม ตามมติสมช.
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ศิลปินจีนตัดกระดาษลังเหลือใช้สร้างงานศิลป์'นาจา’
ผู้นำอังกฤษกดดันทรัมป์ให้รับประกันความมั่นคงยูเครน
"สถานทูตจีน" เปิดภาพส่ง 40 อุยกูร์ กลับประเทศ ย้ำปฏิบัติอย่างมีอารยะ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น