“นายกฯ” แจงเหตุ GDP ไทย เกาะกลุ่มรั้งท้ายอาเซียน ขออย่าเสียกำลังใจ รัฐบาลเตรียมลงทุนอุตฯใหม่รับอนาคต – Top News รายงาน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ถึงตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจของไทย หลังสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ แถลง ตัวเลข GDP ปี 2567 ที่เติบโต 2.5% ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจของไทยไม่โตหรือรั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งหากดู GDP ในไตรมาส4 ของปี 2567 เติบโตขึ้น 3.2% ซึ่งเกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ การลงทุนของบีโอไอ แต่ยังมีคำถามว่าทำไม GDP ของไทยโตขึ้นน้อยรั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ การเตรียมตัวเรายังไม่ทัน ทั้งที่คนไทยมีศักยภาพ เพียงแต่รอแค่โอกาสและการลงทุนเพิ่มเติม รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ
เรื่องอุตสาหกรรมใหม่ เซมิคอนด็อกเตอร์ ผลิตรถอีวี การเตรียมคนสำหรับอุตสาหกรรมรถ และการเตรียมคนสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตต้องมี อย่างมาเลเซีย มีการเตรียมตัวเรื่องการทำเซมิคอนดอกเตอร์มานานแล้ว เช่นเดียวกับเวียดนามที่ฝึกคนเขียนซอฟต์แวร์มาระยะหนึ่งแล้ว รัฐบาลลงทุนอย่างจริงจังในการทำสิ่งนี้ และมีภาคเอกชนเข้ามาช่วยองค์ความรู้ในการผลักดันคนให้พร้อมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
แต่ไทยยังไม่ได้มีเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราต้องพัฒนาอัพสกิว -รีสกิล ของแรงงานไทย หากไม่พัฒนาสิ่งเหล่านี้เราจะตามเขาไม่ทัน เมื่อรัฐลงทุนแล้วภาคเอกชนก็ต้องช่วยกันทุกฝ่ายต้องดัน GDP ประเทศขึ้นด้วยกันไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนดัน ต้องให้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายจริงๆ
นายกรัฐมนตรี ยังอยากให้SME ที่มีอยู่ 75% ของประเทศลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนเพื่อจะได้นำเม็ดเงินนี้ไปพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองที่มีอยู่แล้ว ถ้าปล่อยสินเชื่อได้ช่วยดัน GDP
หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงานตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 5-6 เดือน ได้ดูเรื่องของงบประมาณซึ่งค่อนข้างมีจำกัดมาก ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะนำไปจ่ายงบประจำ ตนเองพยายามจะรัดเข็มขัดให้ดีไม่อยากให้ใช้จ่ายงบประจำเพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้นำเงินเหล่านี้มาลงทุนในภาครัฐ ขออย่าพึ่งเสียกำลังใจเรื่อง GDP ปี67 ที่โต 2.5% เพราะโตขึ้นจาก GDP ปี66 ที่ 2.0% ซึ่งจะเห็นว่าขยับขึ้นและภายใต้การทำงานของรัฐบาลชุดนี้พร้อมเอกชนที่ให้ความร่วมมือกัน GDP มีโอกาสโตขึ้นสูงมากขออย่าพึ่งท้อใจเพราะนี่แค่ต้นปี