เอาสักที! หมายเรียก “ผบ.ตร.-นิติเวช” ขอดูฟัน-ปอด-หลอดลม “แตงโม”

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นักข่าวก็ได้ถามเรื่องคดีแตงโมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า หากท้ายที่สุดแล้ว พยานหลักฐานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรวบรวม สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นคดีฆาตกรรม จะมีบทลงโทษอย่างไร กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีในครั้งแรก

โดย ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าว พ้นมือคณะทำงานสอบสวนของตำรวจ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระดับสูง การรื้อคดีเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.รื้อคดี ตนคงไม่สามารถตอบอะไรในอนาคตได้ แต่หากมีข้อเท็จจริงปรากฏออกมาเป็นอย่างอื่น ต่างไปจากสิ่งที่คณะพนักงานสอบสวนได้ทำไปแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ว่ากันไปตามกฎหมาย

ต่อมา พลตำรวจเอก สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือบิ๊กโจ๊ก ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการคนดังนั่งเคลียร์ กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า มาถึงขั้นนี้แล้ว ผบ.ตร.จะอยู่เฉยไม่ได้ จะมาบอกว่าวันนั้นผมไม่ได้เป็น ผบ.ตร. ผมไม่เกี่ยว ไม่ได้ เพราะเมื่อคุณมานั่งเก้าอี้นี้แล้ว มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คุณต้องไขความจริงให้ปรากฎ วันนี้ถ้าผมยังอยู่ ผมจะเดินไปหา ผบ.ตร.เลยว่า พี่ เรื่องนี้มอบให้ผมได้มั้ยพี่ ช่วยแต่งตั้งผมเป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงเลย จากนั้นผมก็จะไปคุยกับ อ.ปานเทพ เอาข้อมูลมาคุยกัน แล้วเชิญผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอพรทิพย์ อ.อ๊อด ไทด์ เอกพันธ์ หรือใครก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วทำความจริงให้ปรากฎ ใครบกพร่อง ใครผิด ก็ว่ากันไปตามนั้น

วันนี้ยอมรับว่าสงสารประชาชน สงสาร อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะ เพราะตำรวจไม่มีใครสนใจ ถ้า ผบ.ตร.ไม่ขยับ ก็ทำอะไรไม่ได้ ดีเอสไอก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายคดีนี้จะจบแบบเงียบสนิท เต็มที่ก็แค่ลงโทษร้อยเวรคนนึงเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการใช้เงินวิ่งเต้นคดี แต่เป็นเรื่องของคอนเน็คชั่นของผู้ที่มีฐานะดี บวกกับผู้มีอำนาจรัฐในมือ ผมถึงบอกไงว่า เรื่องนี้จะเข้าทำนองที่ว่าคุกมีไว้ขังคนจน