“เสมา 1 ” แจงคำสั่งศาลปกครอง เลิกกฎเก่า ศธ.ปรับระเบียบทรงผมนักเรียน

“เสมา 1 ” แจงคำสั่งศาลปกครอง เลิกกฎเก่า ศธ.ปรับระเบียบทรงผมนักเรียน

วันนี้ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเพิกถอนกฎกระทรวง ซึ่งเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนว่า คำพิพากษาเรื่องดังกล่าวเป็นกฎกระทรวงฉบับเก่าตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้ปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ตามข้อร้องเรียนของกลุ่มนักเรียนใหม่แล้ว โดยเปิดเสรีทรงผมนักเรียน และไม่ปิดกั้นการที่นักเรียนจะไว้ผมยาวหรือผมสั้น แต่ต้องมีความเหมาะสม แต่งทรงผมให้สวยงาม โดยในส่วนของการลงโทษนักเรียนเรื่องทรงผมนั้น ตนขอกำชับไปยังครูและผู้บริหารทุกคนว่า ต้องไม่มีการลงโทษเกินกว่าเหตุ จนทำให้เด็กรู้สึกอับอาย เพราะการลงโทษได้ระบุไว้ในกฎหมายชัดเจน คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนประพฤติ ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ธีรัจชัย' จี้นายกฯ ฟันวินัย 'พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ' หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลช่วย  'บอส วรยุทธ' |

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ นายสิริพงษ์ อังคเกียรติสกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นกรณีพิพาทที่เกิดขึ้นในปี 2563 ที่แบ่งเป็นสองประเด็นด้วยกัน คือ 1. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ซึ่งกำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับการไว้ทรงผม และการใช้เครื่องสำอางของนักเรียนที่ออกมาในปีพ.ศ.2518 และ 2. ประกาศกระทรวงเรื่องพฤติกรรมนักเรียนที่ยึดโยงกับประกาศของคณะปฏิวัติเป็นหลัก ซึ่งข้อพิพาทดังกล่าวในอดีต มีการกล่าวถึงเรื่องของการให้อำนาจสถานศึกษาในการพิจารณาทรงผมของนักเรียน แต่บางสถานศึกษาอาจจะยังนำประกาศของคณะปฏิวัติมาใช้ในการกำหนดระเบียบทรงผมนักเรียน และการกระทำอาจก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิของนักเรียน ศาลปกครอง จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิวัติ ทั้งนี้เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกประกาศดังกล่าว ก็ถือว่าต่อไปนี้จะไม่กำหนดทรงผมนักเรียน ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้ยกเลิกระเบียบทรงผมไปตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 แล้ว ส่วนการบังคับใช้คำสั่งศาลที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็จะถือว่าทรงผมนักเรียนจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมนักเรียน นอกจากนี้คำพิพากษาของศาลปกครอง ยังทำให้เห็นว่าการกระทำใดๆ ที่ล่วงละเมิดต่อสิทธิเด็กนั้น จะไม่สามารถกระทำได้อย่างแน่นอน เช่น การบังคับกล้อนผม เป็นต้น

 

 

ส่องเซฟ เสี่ยโต้ง เบื้องหลังความสำเร็จหนังสัปเหร่อ ทรัพย์สินรวมคู่สมรส 340  กว่าล้าน

นายสิริพงษ์ กล่าวต่อว่า แม้กระทรวงจะให้อำนาจสถานศึกษาในการพิจารณาทรงผมของนักเรียน แต่สถานศึกษาเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้เพียงลำพัง เพราะต้องหารือกับตัวแทนผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม ขณะเดียวกันกระทรวงได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบคำพิพากษาศาลฉบับเต็ม เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และปรับกฎกระทรวงให้เป็นไปตามคำพิพากษา หากมีส่วนที่ต้องปรับ แต่เบื้องต้นเท่าที่ดูจากคำพิพากษาฉบับย่อ ยังไม่มีส่วนไหนที่จะต้องปรับ รวมถึงขอให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบด้วยว่า การยกเลิกประกาศคำสั่งคณะปฏิวัติ จะมีผลกระทบไปถึงส่วนใด นอกจากเรื่องทรงผมอีกบ้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"3 ทศวรรษ สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ" กระทรวงทรัพยากรฯ จับมือ ซีพี และทรูปลูกปัญญา จัดงานมอบรางวัลพร้อมเชิญสัมผัสความงดงามของสัตว์ป่าและธรรมชาติเมืองไทย ผ่านนิทรรศการภาพถ่ายแห่งปี 2567 ระหว่างวันที่ 4 - 16 มีนาคมนี้ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
"บิ๊กเต่า" ขีดเส้นตาย 12 มี.ค.นี้ พยานเร่งเข้าพบตำรวจให้ข้อมูล "ทุจริตยา"
อ.สันกำแพง จับมือ ซีพีเอฟ ชวนชุมชนเปิด “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” รณรงค์หยุดเผา ลด PM2.5 - ป้องกันไฟป่า
"พิพัฒน์" นำถก "กรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจ" เห็นชอบปรับค่าจ้างเพิ่มไม่เกิน 10% ภายใน 2 ปี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และภาคีเครือข่าย ยกระดับการพัฒนากระบือไทย ด้วยเทคโนโลยีและพันธุกรรม สู่การเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศนางสงกรานต์ 2568 ทรงนาม “ทุงสะเทวี” พร้อมคำทำนายตลอดปี
งานหยาบ "F-16" เกาหลีใต้ หย่อนตูม 8 ลูกผิดเป้า ชาวบ้านสาหัส 4 บ้านเรือนแหลก
"มนพร" แจงเหตุจำเป็นปรับปรุง พ.ร.บ.การท่าเรือฯ ยังไม่สรุป "คลองเตย" ใช้พัฒนาสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ
“พม่าUK” ตะโกนลั่นหน้าสถานทูต ประท้วงไทย! ค้านส่งคนเถื่อนกลับประเทศ
"ภูมิธรรม" ย้อนสื่อซักมติกคพ. ชี้ภาพดีลจันทร์ส่องหล้าล่ม ไม่เชื่อกระทบซักฟอกนายกฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น