“รมช.มนพร” เผยคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ เตรียมเสนอครม. 11 มี.ค.นี้

นางมนพร กล่าวว่า โครงการ SEC มีการคัดค้านจากผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ อาทิ ที่ อ.พะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ชาวบ้านกลัวที่จะสูญเสียเรื่องที่ดินทำกิน และการชดเชยจากรัฐบาล แต่เมื่อย้อนถามชาวบ้าน กลับพบว่า สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือ ชาวบ้านต้องการได้รับสิทธิ์การเป็นคนไทย เป็นอันดับแรก เพื่อให้ได้เอกสารสิทธิ์ที่ดิน เพราะชาวบ้านเหล่านั้นไม่ได้เป็นคนไทย จึงทำให้ต้องพิสูจน์สิทธิ เพื่อการเข้าถึงสิทธิ์ที่ดินที่ครอบครอง แต่จะต้องดูว่าที่ดินที่ชาวบ้านครอบครอง เป็นพื้นที่ลักษณะใด พื้นที่ป่าสงวน พื้นที่สาธารณะ และรัฐบาลจะเยียวยาหรือช่วยเหลือเช่นไร

ตนได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามความคิดเห็นคนในพื้นที่ด้วยตนเอง โดยในส่วนของประมงพื้นบ้าน หรือประมงชายฝั่ง ไม่ได้ผลกระทบจากโครงการ SEC เพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ชายฝั่งที่ชาวประมงหาปลา และมองเป็นโอกาส ที่แลนด์บริดจ์เข้ามา และพัฒนาศักยภาพประมงพื้นบ้าน ปลาที่หาได้จะมีพื้นในการทำอาชีพ อย่างเช่น ตลาดรับซื้อปลา โรงงานแปรรูป เป็นต้น และต้องการเห็นความเจริญเข้ามาในพื้นที่เพื่ออนาคตของลูกหลาน

ส่วนการคัดค้านของกลุ่ม เอ็นจีโอนั้น นางมนพร กล่าว กลุ่มนี้อาจจะมีมิติในการรักษาสมดุลธรรมชาติ และรักษาประโยชน์จากการสัมผัสกับชาวบ้านว่าชาวบ้านไม่ควรถูกกระทำในสิ่งที่พึงมีพึงได้ แต่หากมีการเปิดใจให้กว้างว่าเป็นการให้ข้อมูล เป็นการสื่อสาร เปิดพื้นที่ให้เสนอความคิดเห็น และนำข้อเสนอเหล่านั้น มาเป็นโจทย์ให้สนข. แก้ไขปัญหาและลงพื้นที่เพื่อหาคำตอบว่าจะแก้ไขปัญหาเช่นไรจากข้อเรียกร้อง และนำความคิดเห็นของประชาชนมาหยิบยก เป็นกฏหมาย เอสอีซี ซึ่งจะเป็นการพบกันครึ่งทาง ประชาชนได้ประโยชน์และสูงสุดคือเกิดประโยชน์กับประเทศ

“ในมิติของงานเศรษฐกิจ หากวันนี้โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการเรือธงของรัฐบาลที่เรามองเห็นโอกาสของประเทศไทยว่าการขนส่งทางเรือระหว่างทะเลอ่าวไทยและอันดามัน เป็นโอกาสและร่นระยะทางการขนส่งทางเรือ และเราก็เห็นถึงการปล้นเรือและสงคราม หากเราคิดว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เริ่มต้นและรัฐบาลนี้ก็ไม่ได้คิดว่ารัฐบาลลุงตู่ทำไว้จะไม่ทำ แต่ได้ศึกษาว่าโครงการนี้มีประโยชน์จริง จึงได้มีการต่อยอดโครงการนี้ “