จากกรณีที่ TOPNEWS ได้ร่วมกับ GMC ในการไปเช่าเวลาขยายฐานกลุ่มผู้ชมจากดาวเทียมสู่ช่อง 5 ทีวีดิจิตอลที่มีฐานการรับชมเข้าถึงคนไทยทั้งประเทศ ผลจากการแถลงข่าวลงนาม MOU และเปิดตัว 4 พิธีกรหลักเมื่อ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตและแสดงความเห็นที่หลากหลาย แม้แต่โฆษกพรรคก้าวไกล ที่โพสต์ข้อความกล่าวหาช่อง 5 เอางบประมาณ มาสร้างไอโอ ทั้งที่ GMC ต้องจ่ายเงินให้ช่อง 5 ปีละ 65 ล้านบาท
หลังจากที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้จัดงานแถลงข่าว พิธีลงนามการผลิตรายการข่าวระหว่าง ททบ.5 กับ บริษัท กาแล็กซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ GMC เมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 ที่ผ่านมา โดย พลโท รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กับ นพ.ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ GMC พร้อมเปิดตัว 4 พิธีกรคนข่าวตัวจริง คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ,คุณธีระ ธัญไพบูลย์ ,คุณสันติสุข มะโรงศรี ,คุณสถาพร เกื้อสกุล จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรายการใหม่นั้น ทำให้เป็นที่พูดถึงในแวดวงสื่อ ทั้งเป็นที่จับตาถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย
ในช่วงหนึ่งที่ พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ ได้แถลงข่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ ทาง GMC และทีมผู้ประกาศข่าวดังได้ให้เกียรติมาร่วมผลิตรายการข่าวกับทางช่อง 5 เราเน้นย้ำว่าเรื่องเรตติ้งคนดูไม่ใช่ปัจจัยหลักเรื่อง การให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ถูกต้อง ให้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่อยากให้ช่อง 5 เป็นสถานีข่าวที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และในสัญญาบริษัท GMC ซึ่งต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ช่อง 5 ปีละ 65 ล้านบาทด้วย
โดยทางนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ได้เปิดเผยถึงนโยบายในการนำเสนอข่าวภายใต้ ททบ.5 มีโจทย์ชัดเจน คือ 1.นำเสนอความจริง 2.ไม่ทำให้สังคมแตกแยก และ 3.นำเสนอความเคลื่อนไหวของสถานการณ์โควิด และในวันนี้เราถือเป็นตัวแทนพิธีกรซึ่งจะมีทีมงานเข้ามาเพิ่มอีกหลายคน โดยรายการข่าวใหม่ จะเริ่มออกอากาศครั้งแรก ในวันที่ 3 มกราคม 2565 พร้อมทั้งเปิดเผย 4 เงื่อนไข คือ 1. นำเสนอความจริงรอบด้าน โดยไม่ต้องตัดสิน 2. ไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก 3. ใช้รายการข่าวช่วยฟื้นฟูประเทศหลังโควิด 4. ทุกคนทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ภายหลังจากงานแถลงข่าวเสร็จสิ้น ในโลกข่าวสารทั้งกระแสหลัก และโลกออนไลน์ รวมถึงนักการเมืองได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากทั้งชื่นชมและตั้งข้อสังเกตุ การเข้ามาของ GMC และทีมพิธีกรข่าวจากช่อง TOPNEWS
ล่าสุดทางด้าน น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชนได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรายการข่าวใหม่ เปิดตัว 4 พิธีกรข่าวดัง เข้ามาร่วมเสริมทัพรายการข่าว หวังผลักสร้างการเติบโตให้แก่เรตติ้งในปี 2565 ของ ททบ.5 โดยบอกว่า เมื่อเห็นรายชื่อของผู้ประกาศชุดนี้แล้ว อดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่าททบ.5 ซึ่งเป็นทีวีสาธารณะ กำลังใช้งบประมาณในการสร้าง Propaganda หรือไม่ หรือนี่คือการที่กองทัพกำลังยกระดับขบวนการไอโอมาไว้บนดิน
พร้อมกับอ้างว่า สิ่งที่กองทัพควรตระหนักและเข้าใจคือเราอยู่ในยุคสมัยที่พี่น้องประชาชนเข้าถึงสื่อ และสามารถเป็นเจ้าของสื่อได้ การพยายามสร้างโฆษณาชวนเชื่อ นอกจากจะเป็นการดูถูกประชาชนแล้ว พวกคุณยังไม่มีวันก้าวทันความเข้าใจของสังคมที่รุดหน้าไปไกล ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการบ่งชี้ว่ายุทธศาสตร์การสื่อสารเชิงรุกที่ ททบ.5 ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกองทัพบก กำลังทำภารกิจสร้างความแตกแยกในสังคม
“เหตุผลที่พูดเช่นนี้ เพราะหากมีการนำชื่อของผู้ประกาศข่าวใหม่ทั้งหมดไปค้นหา ก็ได้คำตอบถึงวัตถุประสงค์ในครั้งนี้ได้ไม่ยาก นอกจากนี้ การผลิตข่าวสารนั้นจะต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ผู้ดำเนินรายการจะต้องไม่ใส่ความคิดเห็นส่วนตัวลงไปในการรายงาน และสัดส่วนของการรายงานข่าวต้องไม่เป็นผลประโยชน์ขององค์กรใดขององค์หนึ่งหรือเป็นเครื่องมือแก่กลุ่มการเมืองใดๆซึ่งที่ผ่านมา”
น.ส.สุทธวรรณ กล่าวด้วยว่า จรรยาบรรณของคนทำงานสื่อมวลชนต้องตระหนักว่า hate speech เป็นการสร้างความแตกแยก ได้รับความเสียหายมากมายในอดีต หากททบ.5 ไม่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความแตกแยกก็โปรดพิจารณาและวางสัดส่วนผู้ดำเนินรายการให้มีความหลากหลายกว่านี้
ในขณะที่ทางด้าน พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสธ.ทบ. และ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ปรับผังททบ.5 ที่ให้ 4 พิธีกรจาก ท็อปนิวส์ มาจัดรายการ ว่า ททบ. 5 เป็นสถาบันโทรทัศน์ หรือสถานีสื่อสารที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบว่ามีพื้นที่นำเสนอข่าวกี่เปอร์เซ็นต์ และเรื่องบันเทิงกี่เปอร์เซ็นต์ ใครมีความประสงค์ซื้อเวลา งานต่างๆหรือประชาสัมพันธ์ ก็มีเงื่อนไขการตกลง เรื่องค่าตอบแทน และเงื่อนเวลา เรารับได้ทั้งหมด ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นใคร ยืนยันว่า เป็นเรื่องการทำธุรกิจ และเป็นไปตามระเบียบ ไม่มีเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง
ซึ่งหากย้อนกลับไปฟังคำแถลงต่อสื่อของพล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 ย้ำชัดว่า GMC ได้จ่ายค่าตอบแทนให้ปีละ 65 ล้านบาท เป็นสัญญาแบบปีต่อปี ก็ชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องของการทำธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายบริษัท ที่เข้ายื่นข้อเสนอและผลิตข่าว รายการกับทางช่อง 5 อยู่แล้ว แต่การที่ โฆษกออกมาปูดข้อมูลว่า ช่อง 5 เอางบประมาณไปจ้างพิธีกรTOPNEWS มาสร้าง Propaganda หรือสร้าง ไอโอ ของกองทัพนั้น จึงไม่เป็นความจริง